คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 607/2536

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
การพิจารณาคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 40 บัญญัติให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ดังนั้น เมื่อจำเลยที่ 2 ยื่นคำให้การต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง คือแสดงโดยแจ้งชัดในคำให้การว่ายอมรับหรือปฏิเสธข้ออ้างของโจทก์ทั้งสิ้นหรือแต่บางส่วน รวมทั้งเหตุแห่งการนั้น การที่จำเลยที่ 2 ไม่ได้ให้การต่อสู้เรื่องอายุความและขอให้หักผลประโยชน์ไว้ และศาลชั้นต้นก็ไม่ได้พิจารณาในเรื่องนี้ เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาแล้วจำเลยที่ 2 มาขอให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาย่อมต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225วรรคแรก ที่ว่าข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายที่จะยกขึ้นอ้างอิงในการยื่นอุทธรณ์นั้น คู่ความจะต้องกล่าวไว้ชัดแจ้งในอุทธรณ์ และต้องเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 40
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225

ผู้พิพากษา

ไมตรี กลั่นนุรักษ์
อุไร คังคะเกตุ
บุญสิน ตุลากัน

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android