คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3045/2536

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาตามยอมให้โจทก์นำเงินค่าที่ดินมาวางศาลภายในกำหนด 3 เดือน นับแต่วันทำยอมแล้วจำเลยจะโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทให้โจทก์ภายใน 7 วัน นับแต่วันชำระเงิน แต่เมื่อล่วงเลยกำหนดเวลาวางเงินแล้ว โจทก์ยื่นคำร้องขอไม่วางเงินอ้างว่าที่ดินพิพาทถูก น. เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลยอีกคดีหนึ่งยึดไว้ ทำให้จำเลยไม่สามารถโอนที่ดินให้แก่โจทก์ได้ ศาลฎีกามีคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากรณีเป็นการแก้ไขคำพิพากษาตามยอมไม่อาจสั่งให้โจทก์ไม่วางเงินได้ ดังนี้แม้จะปรากฏว่าในคดีแพ่งที่ น. เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของจำเลย โจทก์ได้ยื่นคำร้องขอให้ถอนการยึดที่ดินพิพาทและศาลฎีกาได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดว่า การที่โจทก์ยังไม่ได้วางเงินเพราะจำเลยไม่อาจปฏิบัติตามสัญญายอมได้ เนื่องจากน. ได้นำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินพิพาทไว้ก่อน จึงถือไม่ได้ว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญายอม และโจทก์มีสิทธิตามคำพิพากษาตามยอมที่จะบังคับให้จดทะเบียนสิทธิของตนได้ก่อนจึงให้ถอนการยึดที่ดินพิพาทในคดีดังกล่าวก็ตาม แต่คำพิพากษาศาลฎีกาทั้งสองเรื่องนี้ก็ไม่ขัดกันเพราะประเด็นในคดีนี้เป็นเรื่องที่โจทก์จะต้องวางเงินภายในกำหนดเวลาตามคำพิพากษาตามยอมในคดีนี้ แต่ประเด็นตามคำพิพากษาศาลฎีกาคดีดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องถอนการยึดทรัพย์ แม้ตามคำพิพากษาศาลฎีกาคดีดังกล่าวจะกล่าวอ้างว่าโจทก์ไม่ได้เป็นฝ่ายผิดสัญญายอมก็ตาม แต่ก็เป็นเพียงกล่าวอ้างถึงเหตุอันสมควรถอนการยึดที่ดินพิพาทเท่านั้น กรณีจึงมีประเด็นพิพาทต่างกัน และผลแห่งคำพิพากษาศาลฎีกาทั้งสองคดีก็เป็นคนละเรื่องกัน หาขัดแย้งกันไม่ โจทก์จึงไม่ชอบที่จะนำคำพิพากษาศาลฎีกาคดีดังกล่าวมาอ้างในคดีนี้เพื่อขอวางเงินตามคำพิพากษาตามยอมในคดีนี้ได้อีก
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 146

ผู้พิพากษา

สมาน เวทวินิจ
ปรีชา ธนานันท์
จิระ บุญพจนสุนทร

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android