คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 971/2506

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
โจทก์จับจองและครอบครองที่ดินมือเปล่า 100 ไร่เศษ ต่อมาจำเลยเข้าไปอยู่ในที่ของโจทก์แล้วไม่ยอมออกไป อ้างว่าเป็นที่ที่นิคมสร้างตนเองแบ่งให้จำเลย 12 ไร่ และจำเลยยังได้บุกเบิกออกไปอีก 20 กว่าไร่ ครั้งเมื่อโจท์ทราบว่าที่ไม่อยู่ในเขตของนิคม โจทก์ก็ร้องต่ออำเภอขอที่คืน อำเภอเรียกไปทำการเปรียบเทียบ โจทก์จำเลยตกลงกันว่าจำเลยตกลงเอาที่ดินเพียง 12 ไร่ นอกนั้นเป็นของโจทก์ทั้งหมด อำเภอได้บันทึกข้อตกลงนี้ให้โจทก์จำเลยลงชื่อไว้ ถึงแม้ข้อตกลงนี้จะระบุให้ชัดว่าที่พิพาทอยู่ตอนไหน คู่กรณีฝ่ายใดได้ที่บริเวณไหน การรังวัดจะต้องทำอย่างไร แต่เรื่องนี้โจทก์จำเลยเข้าใจดีว่าที่พิพาทคือที่ที่จำเลยอ้างว่านิคม ฯ แบ่งให้จำเลย 12 ไร่ และจำเลยก็ได้นำชึ้ไว้ในแผนที่กลางแล้ว บันทึกการเปรียบเทียบนี้จึงเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ จำเลยจะอ้างว่าไม่อาจจะระงับข้อพิพาทได้นั้นหาได้ไม่ และผลของสัญญาประนีประนอมยอมความนั้นย่อมทำให้การเรียกร้องของจำเลยซึ่งได้ยอมสละนั้นสิ้นไป ทำให้แต่ละฝ่ายได้สิทธิตามที่แสดงไว้ในสัญญาเท่านั้น เมื่อโจทก์มาฟ้องตามสัญญาประนีประนอมยอมความ จำเลยจะอ้างว่าขาดอายุความแล้ว โดยจะให้นับระยะเวลาตามที่จำเลยครอบครองที่พิพาทมาดังนี้
หาได้ไม่.
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 163
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 852
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375

ผู้พิพากษา

บริรักษ์จรรยาวัตร
จิตติ ติงศภัทิย์
พจน์ ปุษปาคม

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android