คำพิพากษาย่อสั้น
คดีที่อัยการศาลทหารกรุงเทพยื่นฟ้องจำเลยซึ่งเป็นนายทหารประทวนประจำการต่อศาลทหารกรุงเทพว่ากระทำความผิดอาญาสองกรรมต่างกัน กล่าวคือ ข้อ ก. จำเลยบังอาจถีบรถยนต์ของผู้เสียหายเป็นเหตุให้ประตูหลังข้างขวาเป็นรอยบุบได้รับความเสียหาย และข้อ ข. ภายหลังเกิดเหตุข้อ ก. จำเลยทำร้ายร่างกายผู้เสียหายด้วยการชกและเตะแล้วใช้ไม้เป็นอาวุธตีจนผู้เสียหายได้รับอันตรายแก่กาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา เห็นว่า สำหรับความผิดตามฟ้องข้อ ข. ฐานทำร้ายร่างกายทั้งสองศาลเห็นตรงกันว่าทหารกับพลเรือนกระทำผิดด้วยกันอยู่ในอำนาจของ
ศาลยุติธรรม จึงเป็นอันยุติไป คงมีปัญหาเฉพาะความผิดตามฟ้องข้อ ก. ฐานทำให้เสียทรัพย์เท่านั้น แม้โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยซึ่งเป็นทหารกระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระกันก็ตาม แต่เมื่อปรากฏจากเหตุการณ์เดียวกันนี้ว่าผู้เสียหายก็ถูกพนักงานอัยการยื่นฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลแขวงดุสิตว่าทำร้ายร่างกายจำเลยคดีนี้เช่นกันและศาลมีคำพิพากษาลงโทษผู้เสียหายไปแล้ว คดีทั้งสองต่างเกิดเหตุในวัน เวลา และสถานที่เดียวกัน ผู้เสียหายและจำเลยต่างทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันและต่างก็เป็นผู้เสียหายคดีทั้งสองจึงมีมูลความแห่งคดีเดียวกัน พฤติการณ์ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์และฐานทำร้ายร่างกายจึงเป็นความผิดที่เกี่ยวพันกันและเป็นคดีที่มีบุคคลที่อยู่ในอำนาจของศาลทหารกับบุคคลที่มิได้อยู่ในอำนาจของศาลทหารต่างกระทำผิดด้วยกัน ความผิดทั้งสองฐานในคดีนี้จึงไม่อยู่ในอำนาจศาลทหารตามมาตรา ๑๔ (๑) และ (๒) แห่งพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ แต่อยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรม