คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 487/2541

 แหล่งที่มา: เนติบัณฑิตยสภา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
การพิจารณาว่าคดีใดต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหรือไม่นั้น ต้องถือโทษที่ศาลลงแก่จำเลยเป็นรายกระทงไป ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิด 6 กระทง จำคุก กระทงละ 3 ปี เป็นจำคุก 18 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 12 ปี แต่เนื่องจากความผิดฐานฉ้อโกงมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกจำเลยที่ 1 ได้เพียง 10 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(1) เมื่อโทษจำคุก แต่ละกระทงไม่เกิน 5 ปี และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยจึง ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคหนึ่ง จำเลยฎีกาโต้เถียงดุลพินิจในการ รับฟังพยานหลักฐานของศาลว่าจำเลยไม่ได้กระทำความผิดตามฟ้อง เป็นการฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ส่วนที่จำเลยฎีกาอ้างเป็น ข้อกฎหมายเกี่ยวกับการคิดลดโทษให้ว่าควรลดโทษให้แก่จำเลย หรือศาลลงโทษจำคุกแก่จำเลยได้เพียง 6 ปี 7 เดือน เมื่อเป็นการ โต้เถียงดุลพินิจในการลดโทษให้จำเลย จึงเป็นฎีกาในปัญหา ข้อเท็จจริงเช่นเดียวกัน ย่อมต้องห้ามมิให้จำเลยตาม บทกฎหมายดังกล่าวข้างต้น
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

ผู้พิพากษา

อร่าม หุตางกูร
สุนทร สิทธิเวชวิจิตร
อำนวย เต้พันธุ์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android