คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1093/2540

 แหล่งที่มา: สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
แม้การเป็นพยานจะเป็นการปฏิบัติหน้าที่พลเมืองดีก็ตามแต่บางครั้งพยานก็อาจไม่ต้องการเข้ามาเกี่ยวข้องในคดีแม้ตนจะเป็นผู้รู้เห็นเหตุการณ์ก็ตามทั้งนี้อาจเป็นเพราะเกิดความกลัวหรือเห็นว่าไม่ได้ประโยชน์อะไรกลับจะนำภัยมาถึงตนและครอบครัวก็เป็นได้ยิ่งผู้ตายเป็นคนต่างท้องถิ่นส่วนจำเลยเป็นคนหมู่บ้านเดียวกันและขณะนั้นยังจับคนร้ายไม่ได้อีกด้วยในวันเกิดเหตุเจ้าพนักงานตำรวจพบท. สอบถามแล้วไม่ยอมให้การมีลักษณะท่าทางกลัวจึงน่าเชื่อว่าที่ท. ไม่ยอมระบุชื่อจำเลยว่าเป็นคนร้ายและที่บอกว่าคนร้ายสองคนเคยเห็นหน้ามาก่อนมาถ้าเห็นหน้าอีกจำได้นั้นคงมิใช่เพราะท.ไม่รู้จักคนร้ายแต่เป็นเพราะกลัวว่าหากระบุชื่อคนร้ายไปอาจจะนำภัยมาถึงตนหรือครอบครัวมากกว่าดังนั้นการที่ท. ไม่ระบุชื่อจำเลยว่าเป็นคนร้ายในวันเกิดเหตุจึงหาเป็นข้อพิรุธอันจะทำให้น้ำหนักของคำเบิกความของท. ที่ยืนยันว่าจำเลยกับอ.เป็นคนร้ายเสียไปไม่เมื่อรับฟังประกอบกับพฤติการณ์ที่จ.พบเห็นจำเลยกับพวกก่อนและหลังเกิดเหตุและพฤติการณ์ที่พันตำรวจโทว. สืบทราบว่าจำเลยกับพวกเป็นคนร้ายจนยึดรถจักรยานยนต์ของโจทก์ได้และรายงานต่อผู้บังคับบัญชาพยานหลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักมั่นคงรับฟังได้โดยปราศจากข้อสงสัย
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227

ผู้พิพากษา

ทองเลื่อน พูลพิพัฒน์
ทวิช กำเนิดเพ็ชร์
ดุสิต เพชรปลูก

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android