คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5098/2546

 แหล่งที่มา: เนติบัณฑิตยสภา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 

จำเลยที่ 3 ต้องร่วมรับผิดกับ ณ. และจำเลยที่ 1 ที่ 2 ชำระหนี้แก่โจทก์ตามคำพิพากษาในคดีแพ่งจึงเป็นลูกหนี้ร่วม โจทก์จะเรียกชำระหนี้จากลูกหนี้คนใดคนหนึ่งสิ้นเชิงหรือแต่โดยส่วนก็ได้ตามแต่จะเลือก แต่ลูกหนี้ร่วมยังคงต้องผูกพันอยู่ทั่วทุกคนจนกว่าหนี้นั้นจะได้ชำระเสร็จสิ้นเชิงแล้ว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 291 การที่โจทก์นำมูลหนี้ดังกล่าวมาฟ้องจำเลยทั้งสามและ ณ. ให้เป็นบุคคลล้มละลายซึ่งศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยที่ 3 และ ณ. เด็ดขาดและพิพากษาให้เป็นบุคคลล้มละลายแล้ว โจทก์ได้นำมูลหนี้ตามคำพิพากษาไปขอรับชำระหนี้แม้โจทก์จะยอมรับชำระหนี้จากทายาทของ ณ. เพียงบางส่วนโดยไม่ติดใจขอรับชำระหนี้ส่วนที่เหลือ และขอถอนคำขอรับชำระหนี้ในส่วนนี้ไป ก็หาทำให้จำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นลูกหนี้ร่วมกับ ณ. หลุดพ้นไม่ต้องชำระหนี้ในส่วนที่เหลือไม่ เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้โจทก์ได้รับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของจำเลยที่ 3 เต็มตามขอ โจทก์จึงยังมีสิทธิได้รับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของจำเลยที่ 3 ในส่วนที่เหลือกรณีมิใช่หนี้สินของบุคคลล้มละลายได้ชำระเต็มจำนวนแล้ว และมิใช่กรณีลูกหนี้ไม่ควรถูกพิพากษาให้ล้มละลาย อันจะเป็นเหตุให้ยกเลิกการล้มละลายของจำเลยที่ 3 ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 135(2) และ (3)
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 291
  • พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 135

ผู้พิพากษา

สุพัฒน์ บุญยุบล
ประมาณ ตียะไพบูลย์สิน
บรรหาร มูลทวี

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android