คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7452/2544

 แหล่งที่มา: สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 

ฟ้องโจทก์เป็นเรื่องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนที่ดินที่อ้างว่าจำเลยที่ 1กับ จ. ลูกหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาได้สมคบกันโอนให้แก่จำเลยที่ 2 และที่ 3ซึ่งเป็นบุตรโดยเสน่หา อันเป็นทางให้โจทก์เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาของ จ. เสียเปรียบกรณีจึงต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 237 แล้ว ซึ่งการฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนดังกล่าว โจทก์จะต้องฟ้องลูกหนี้คือ จ. เข้ามาในคดีด้วย ศาลจึงจะมีอำนาจพิพากษาให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนได้แม้เฉพาะส่วนของ จ. ก็ตาม นอกจากนี้ตามคำฟ้องของโจทก์ก็มิได้บรรยายไว้เลยว่าหนี้ที่ จ. เป็นหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาในคดีแพ่งทั้งสามคดีตามฟ้องนั้นเป็นหนี้ร่วมระหว่างจำเลยที่ 1กับ จ. ซึ่งเป็นสามีภริยากันตามที่ได้บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1490(1) ถึง (4) อันจำเลยที่ 1จะต้องรับผิดในหนี้ตามคำพิพากษาในคดีแพ่งทั้งสามคดีร่วมกับ จ. ซึ่งจะมีผลให้จำเลยที่ 1 อยู่ในฐานะเป็นลูกหนี้โจทก์ด้วย ดังนี้ เมื่อโจทก์มิได้ฟ้องลูกหนี้คือ จ. เข้ามาในคดีประการหนึ่ง และจำเลยที่ 1 มิได้อยู่ในฐานะเป็นลูกหนี้โจทก์ที่จะต้องรับผิดต่อโจทก์อีกประการหนึ่ง โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้เพิกถอนนิติกรรมการโอนที่ดินตามฟ้องระหว่างจำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 และที่ 3 ได้
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 237

ผู้พิพากษา

จำรูญ แสนภักดี
ชาญชัย ลิขิตจิตถะ
วสันต์ ตรีสุวรรณ

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android