คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1219/2519

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 

คดีแรกจำเลยฟ้องโจทก์ขอหย่าและแบ่งสินสมรส ศาลพิพากษาถึงที่สุดให้หย่าและแบ่งสินสมรสตามบัญชีทรัพย์ท้ายฟ้องไปแล้ว ต่อมาโจทก์ฟ้องจำเลยเป็นคดีที่สองว่าที่พิพาทเป็นสินสมรสรวมอยู่ในโฉนดที่ดินสินสมรสแปลงหนึ่งซึ่งเจ้าหนี้ฟ้องบังคับจำนองขายทอดตลาดและโจทก์เป็นผู้ซื้อได้ขอให้โอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาทเป็นชื่อของโจทก์ศาลวินิจฉัยว่าที่พิพาทมิใช่ส่วนหนึ่งของที่ดินสินสมรสตามโฉนดที่เจ้าหนี้ฟ้องบังคับจำนอง ซึ่งโจทก์ซื้อมาพิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุด โจทก์จึงมาฟ้องคดีนี้ว่าที่พิพาทเป็นสินสมรสที่โจทก์จำเลยร่วมกันซื้อมาระหว่างสมรสยังมิได้แบ่งในคดีแรกขอแบ่ง ดังนี้ ฟ้องคดีหลังนี้อ้างเหตุผลคนละอย่างกับคดีที่สอง จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำกับคดีที่สอง แต่เป็นฟ้องซ้ำกับคดีแรก เพราะแม้ว่าทรัพย์ที่โจทก์ฟ้องคดีหลังนี้จะเป็นคนละอย่างกับคดีแรกซึ่งโจทก์เป็นจำเลยแต่ไม่ได้ให้การหรือฟ้องแย้งแต่คดีนี้ก็เป็นการเรียกทรัพย์จากจำเลยมาแบ่งเป็นสินสมรสเช่นเดียวกัน เป็นประเด็นเดียวกับคดีแรกซึ่งได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน จึงต้องห้ามมิให้ฟ้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 148
ปัญหาเรื่องฟ้องซ้ำ เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชนแม้คู่ความจะมิได้ฎีกาศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นชี้ขาดได้
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148

ผู้พิพากษา

แผ้ว ศิวะบวร
จันทร์ ระรวยทรง
พยนต์ ยาวะประภาษ

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android