คำพิพากษาย่อสั้น
จำเลยจำนองที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างกับผู้คัดค้านที่ 2 เป็นเงิน 50,000 บาท ต่อมาเพิ่มเงินอีก 20,000 บาท หลังจากนั้นจำเลยจำนองกับ น. เป็นเงิน 50,000 บาท แล้วมีการจดทะเบียนไถ่ถอนจำนองทั้งหมดโดยไม่มีการชำระหนี้จำนอง ต่อมาจำเลยขายให้แก่ผู้คัดค้านที่ 1 เป็นเงิน 200,000 บาท ผู้คัดค้านที่ 1 จดทะเบียนจำนองกับผู้คัดค้านที่ 2 เป็นเงิน 180,000 บาท แม้ได้ทำขึ้นในระหว่างระยะเวลา 3 เดือนก่อนมีการขอให้ล้มละลายแต่เฉพาะสัญญาจำนองจำนวน 120,000 บาท สืบเนื่องมาจากสัญญาจำนองเดิมโดยยังมิได้มีการชำระหนี้จำนองกัน การที่ผู้คัดค้านที่ 1 รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจากจำเลยแม้จะไม่มีการไถ่ถอนจำนอง ผู้รับโอนก็ต้องรับภาระหนี้จำนองมาด้วยอยู่แล้ว จึงจะถือว่าการจำนองรายนี้ลูกหนี้ได้กระทำหรือยินยอมให้ กระทำในระหว่างระยะเวลา 3 เดือนก่อนมีการขอให้ล้มละลายตามพระราชบัญญัติ ล้มละลายฯ มาตรา 115 หาได้ไม่
ไม่ปรากฏว่าผู้คัดค้านที่ 2 ยอมเพิ่มเงินจำนองให้ผู้คัดค้านที่ 1 โดยรู้อยู่แล้วว่าจำเลยมีหนี้สินล้นพ้นตัว ผู้คัดค้านที่ 2 จึงกระทำการโดยสุจริต แม้ต่อมาศาลจะสั่งเพิกถอนการซื้อขายระหว่างจำเลยกับผู้คัดค้านที่ 1 คำสั่งศาลดังกล่าวก็ไม่กระทบถึงสิทธิของผู้คัดค้านที่ 2 ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้ได้สิทธิมาโดยสุจริตและมีค่าตอบแทนก่อนมีการขอให้ล้มละลายตามพระราชบัญญัติล้มละลายฯ มาตรา 116 สัญญาจำนองจึงมีผลใช้บังคับได้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่มีอำนาจร้องขอให้เพิกถอน