คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2343/2527

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
การที่จำเลยที่ 1 ขับรถยนต์จะผ่านทางรถไฟ แม้ไม่มีป้ายสัญญาณ "หยุด" บอกไว้แต่ก็มีป้ายบอกเครื่องหมายว่ามีทางรถไฟข้างหน้าแสดงไว้ ซึ่งจำเลยที่ 1 ก็ควรใช้ความระมัดระวังดูความปลอดภัยให้แน่เสียก่อน โดยชะลอความเร็วและหยุดรถมองซ้ายและขวาต่อเมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้วจึงขับต่อไป แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ได้ปฏิบัติดังกล่าวเมื่อรถยนต์ที่จำเลยที่ 1 ขับไปเกิดชนกับรถไฟขึ้น จำเลยที่ 1 จึงได้ชื่อว่าเป็นผู้ขับรถยนต์มาด้วยความประมาทเลินเล่อ บริเวณที่เกิดเหตุมีอุบัติเหตุรถไฟกับรถยนต์ชนกันบ่อยถึงแม้พระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟและทางหลวง พ.ศ.2464 มาตรา73 จะมิได้บังคับให้การรถไฟต้องทำประตูหรือขึงโซ่ หรือทำราวกั้นขวางถนนที่ตัดผ่านทางรถไฟทุกถนนก็ตาม แต่เมื่อ ถนนตัดผ่านในกรณีพิพาทเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนกับรถไฟบ่อยๆโจทก์ก็ควรจะทำเครื่องปิดกั้นถนนไว้เพื่อให้เกิดความปลอดภัยยิ่งขึ้นแต่ก็มิได้กระทำ ถือได้ว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นนี้ โจทก์เองก็มีส่วนประมาทเลินเล่ออยู่ด้วย รถยนต์คันเกิดเหตุเป็นของจำเลยที่ 3 ขายให้แก่จำเลยที่ 2 โดยวิธีผ่อนชำระราคา โดยมีข้อตกลงให้จำเลยที่ 3ทำประกันภัยเกี่ยวกับรถยนต์คันนี้ ในการเสี่ยงภัยทุกประเภทโดยจำเลยที่ 2 เป็นผู้ออกเงินเบี้ยประกันภัยในการเอาประกันภัยดังกล่าว ขณะเกิดเหตุจำเลยที่ 2 ผู้ซื้อยังชำระราคาไม่หมด กรรมสิทธิ์ยังเป็นของจำเลยที่ 3 อยู่แต่จำเลยที่ 2 นำมาครอบครองและใช้สอยโดยให้จำเลยที่ 1ซึ่งเป็นลูกจ้างขับไปในทางการที่จ้างและเกิดเหตุขึ้น เมื่อจำเลยที่ 2 มิได้เป็นคู่สัญญาผู้เอาประกันภัยตามกรมธรรม์ประกันภัยกับจำเลยที่ 4 และจำเลยที่ 3 ไม่ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์จำเลยที่ 4 ก็ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ด้วย
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 442
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 887
  • พระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟและทางหลวง พ.ศ.2464 มาตรา 73

ผู้พิพากษา

นิยม ติวุตานนท์
ศักดิ์ สนองชาติ
ม.ร.ว.ชัยวัฒน์ ชมพูนุท

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android