คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2792/2535

 แหล่งที่มา: เนติบัณฑิตยสภา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
จำเลยซึ่งเป็นทายาทคนหนึ่งของผู้ตายได้ยึดถือครอบครองที่ดินพิพาทแทนโจทก์ทั้งสามซึ่งเป็นทายาทผู้ตายเช่นกัน หากจำเลยจะยึดถือครอบครองที่ดินพิพาทเพื่อตน จำเลยจะต้องบอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือมาเป็นการยึดถือครอบครองเพื่อตนไปยังโจทก์ทั้งสามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381 ก่อนจำเลยได้ยื่นคำคัดค้านการขอออกหนังสือรับรองการทำประโยชน์ของโจทก์ทั้งสามต่อเจ้าพนักงานที่ดินเมื่อเดือนสิงหาคม 2522 แต่โจทก์ทั้งสามไม่ทราบถึงการยื่นคำคัดค้านดังกล่าว ต่อมาเดือนพฤษภาคม 2529 เจ้าหน้าที่ที่ดินได้มีหนังสือแจ้งให้โจทก์ทั้งสามไปรับ น.ส.3 ก. โจทก์ทั้งสามไปรับแต่จำเลยไปคัดค้านไม่ยอมให้รับอ้างว่าที่ดินเป็นของจำเลยถือได้ว่าเดือนพฤษภาคม 2529 จำเลยได้บอกกล่าวเปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือมาเป็นการยึดถือครอบครองเพื่อตน ซึ่งนับถึงวันที่ฟ้องคดีนี้ยังไม่พ้นกำหนด 1 ปี โจทก์ทั้งสามจึงมีสิทธิฟ้องเรียกเอาคืนซึ่งการครอบครองที่ดินพิพาทจากจำเลยได้ ตามมาตรา 1375 จะนำอายุความตามมาตรา 1754 มาใช้บังคับไม่ได้.
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1381
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754

ผู้พิพากษา

บุญศรี กอบบุญ
สุทธิ นิชโรจน์
เสมอ อินทรศักดิ์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android