คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4858/2538

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
คดีเดิมศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยที่ 1 ไปจดทะเบียนโอนที่ดินพิพาทแก่โจทก์ หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลยที่ 1 ถ้าจำเลยที่ 1 ไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวให้โจทก์ได้ให้จำเลยที่ 1 คืนเงินค่ามัดจำ และชำระค่าเสียหายแก่โจทก์ตามคำขอท้ายฟ้องโจทก์ ศาลฎีกาพิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยที่ 1 จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทตามฟ้องให้แก่โจทก์หากจำเลยที่ 1 ไม่ปฏิบัติตามให้จำเลยที่ 1 คืนเงินมัดจำและค่าเสียหายแก่โจทก์ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โดยศาลฎีกาตัดข้อความในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ส่วนที่ระบุว่า "...หากไม่ปฏิบัติตามให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย..." ออกเพราะว่าในขณะที่ศาลฎีกามีคำพิพากษานั้น จำเลยที่ 1 ได้ทำนิติกรรมโอนที่ดินพิพาทให้แก่จำเลยที่ 2 ไปแล้วและเพื่อให้เป็นไปตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์เท่านั้น การที่โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการโอนที่ดินพิพาทระหว่างจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 เป็นคดีนี้แสดงให้เห็นว่าโจทก์ยังประสงค์จะให้บังคับจำเลยที่ 1 โอนที่ดินพิพาทให้แก่โจทก์ เพราะหากศาลพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี โจทก์ก็อาจขอให้บังคับจำเลยที่ 1 โอนที่ดินพิพาทแก่โจทก์ก่อนได้ อันเป็นการบังคับให้จำเลยที่ 1 ปฏิบัติไปตามลำดับคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ในคดีเดิม หาใช่ให้จำเลยที่ 1 เลือกปฏิบัติ โดยเลือกคืนมัดจำและค่าเสียหายแทนการจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทแก่โจทก์ได้ไม่
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271

ผู้พิพากษา

ณรงค์ ตันติเตมิท
บุญธรรม อยู่พุก
ปรีชา บูรณะไทย

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android