คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2715/2538

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
การค้ำประกันหรือการที่บุคคลภายนอกซึ่งเรียกว่าผู้ค้ำประกันยอมผูกพันตนต่อเจ้าหนี้ เพื่อชำระหนี้ในเมื่อลูกหนี้ไม่ชำระหนี้นั้น สามารถทำได้ทั้งเพื่อการชำระหนี้ที่เกิดขึ้นหรือมีอยู่ก่อนแล้วและหนี้ในอนาคต โดยไม่ต้องคำนึงว่าผู้ค้ำประกันได้รู้เห็นด้วยหรือไม่ในขณะที่ลูกหนี้ได้ก่อหนี้นั้นขึ้น ถ้าหนี้นั้นเป็นหนี้อันสมบูรณ์ผู้ค้ำประกันย่อมต้องผูกพันต่อเจ้าหนี้
จำเลยที่ 2 ได้ทำสัญญาค้ำประกันไว้จริง แม้จะไม่ได้ทำพร้อมกันกับสัญญากู้ก็มีผลใช้บังคับได้ เพราะไม่มีบทกฎหมายใดบัญญัติว่าการทำสัญญาค้ำประกันจะต้องทำพร้อมกับสัญญากู้ยืมเงิน เมื่อหนี้เงินกู้ระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ซึ่งมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกันมีการกู้ยืมเงินและรับเงินกันไปแล้วจริงจึงเป็นหนี้อันสมบูรณ์
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 680

ผู้พิพากษา

สถิตย์ สิทธิลักษณ์
ปรีชา เฉลิมวณิชย์
ธีระจิต ไชยาคำ

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android