คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 365/2539

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
ในการฟ้องเรียกให้จำเลยที่ 1 ชำระเบี้ยประกันภัยที่จะต้องส่งมอบแก่โจทก์ตามสัญญาตัวแทน และให้จำเลยที่ 2 ร่วมรับผิดในฐานะผู้ค้ำประกันนั้น โจทก์ไม่จำเป็นต้องบรรยายฟ้องว่า รถยนต์ที่รับประกันภัยแต่ละคันราคาเท่าใด จำนวนเบี้ยประกันภัยแต่ละคันเป็นเงินเท่าใด เพราะเป็นรายละเอียดที่โจทก์ต้องนำสืบในชั้นพิจารณา ไม่ทำให้ฟ้องเคลือบคลุม
คดีแรกโจทก์ฟ้องว่าโจทก์เป็นผู้ทรงเช็คที่จำเลยที่ 1 สั่งจ่ายมอบให้โจทก์เพื่อชำระหนี้ค่าเบี้ยประกันภัยที่จำเลยที่ 1 เก็บมาจากลูกค้าของโจทก์ เมื่อเช็คถึงกำหนดธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงิน ขอให้บังคับจำเลยที่ 1 ใช้เงินตามเช็ค ส่วนคดีนี้โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นตัวแทนเรียกเก็บเบี้ยประกันภัยจากลูกค้าของโจทก์แล้วไม่นำส่งให้โจทก์ เป็นการฟ้องว่าจำเลยที่ 1 ผิดสัญญาตัวแทนไม่นำส่งเบี้ยประกันภัยที่เรียกเก็บจากลูกค้าให้โจทก์ สภาพแห่งข้อหาของทั้งสองคดีต่างกัน แม้มูลหนี้จะสืบเนื่องมาจากเบี้ยประกันภัยเช่นเดียวกันก็ตาม ฟ้องโจทก์คดีนี้ก็ไม่เป็นฟ้องซ้อนกับคดีก่อน
ที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์ไม่ได้นำสืบต้นฉบับเอกสาร ต้องห้ามมิให้รับฟัง จึงฟังไม่ได้ว่าจำเลยค้างส่งเบี้ยประกันภัยนั้น ในชั้นอุทธรณ์ จำเลยอุทธรณ์ว่าจำเลยมิได้ค้างส่งเบี้ยประกันภัยแก่โจทก์ตามฟ้อง ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ข้อนี้จำเลยมิได้อุทธรณ์คำสั่งไม่รับอุทธรณ์ ประเด็นข้อนี้จึงยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นจำเลยไม่มีสิทธิยกขึ้นในชั้นฎีกา ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249

ผู้พิพากษา

สวรรค์ ศักดารักษ์
บุญธรรม อยู่พุก
ปรีชา เฉลิมวณิชย์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android