คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5563/2536

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 28 พ.ย. 2551 10:21:53

คำพิพากษาย่อสั้น

 
โจทก์เป็นพ่อค้าฟ้องเรียกเอาเงินค่าสินค้าจากจำเลยทั้งสองจึงมีกำหนดอายุความ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165 (1) เดิม การที่จำเลยทั้งสองทำหนังสือขอผัดผ่อนค่าโทรทัศน์สีจึงเป็นการรับสภาพหนี้ ทำให้อายุความสะดุดหยุดลง ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 เดิม ภายหลังจากอายุความ 2 ปี ครบบริบูรณ์แล้วจำเลยที่ 1 ทำหนังสือและลงลายมือชื่อแต่เพียงผู้เดียวว่าจะนำเงินค่าโทรทัศน์สีที่ค้างชำระให้ภายในเดือนตุลาคม 2531 ถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้ละเสียแล้วซึ่งประโยชน์แห่งอายุความ เป็นการเฉพาะตัวของจำเลยที่ 1 ย่อมไม่ลบล้างสิทธิของจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกในอันที่จะยกอายุความขึ้นต่อสู้โจทก์ได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 192 เดิม และข้อต่อสู้เรื่องอายุความของจำเลยที่ 2 ย่อมไม่มีผลถึงจำเลยที่ 1 ซึ่งได้ละเสียซึ่งประโยชน์แห่งอายุความแล้ว
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 192
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 165

ผู้พิพากษา

ไพศาล รางชางกูร
นิเวศน์ คำผอง
ประสิทธิ์ แสนศิริ

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android