คำพิพากษาย่อสั้น
จำเลยขอให้ศาลวินิจฉัยเบื้องต้นว่าสัญญาท้ายคำให้การและฟ้องแย้งเป็นสัญญาประนีประนอม ดังนี้ประเด็นข้อวินิจฉัยก็อยู่ที่ว่าข้อความที่ปรากฎในเอกสารฉบับนั้นจะเป็นการเพียงพอตาม ก.ม.ที่ศาลจะบังคับให้เป็นไปตามนั้นหรือไม่เท่านั้น ถ้าศาลเห็นว่ายังไม่มีเหตุผลเพียงพอหรือข้อความกำกวม จำเป็นต้องฟังพยานหลักฐานอื่นต่อไปก่อนก็อาจระงับไว้โดยยังไม่วินิจฉัยปัญหาเบื้องต้นในชั้นนี้ก็ได้
อนึ่งยังปรากฎต่อไปว่าศาลได้เปรียบเทียบให้คู่ความอ้างนายเย๊ะเป็นพยานคนกลางแต่เพียงคนเดียว โจทก์ไม่ยอมฉนั้นเมื่อศาลชั้นต้นเรียกนายเย๊ะเข้ามาเป็นพยานศาลและรับฟังตามคำพยานปากนี้ขึ้นปรับคดีให้โจทก์แพ้จึงเป็นการไม่ชอบ
สัญญาที่จำเลยขอให้วินิจฉัยเบื้องต้นโดยอ้างว่าเป็นสัญญาประนีประนอม ฯ นั้น แม้จะยอมรับฟังว่าเป็นสัญญาประนีประนอมแต่บุตรของโจทก์ทั้ง 3 ยังไม่บรรลุนิติภาวะฉนั้นมารดาย่อมไม่มีสิทธิที่จะทำสัญญาประนีประนอม ฯ เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของบุตรผู้เป็นเด็กโดยลำพังตาม ป.พ.พ.ม.1546 ข้อพิพาทจึงไม่อาจระงับไปได้ คดีจำเป็นต้องฟังข้อเท็จจริงต่อไป