คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2561/2536

 แหล่งที่มา: สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
โจทก์นำหญิงอื่นมาอยู่ในบ้านและมาอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยามีบุตรด้วยกัน 1 คนโดยโจทก์ให้ใช้นามสกุลโจทก์ พฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่าโจทก์อุปการะเลี้ยงดูหรือยกย่องหญิงอื่นฉันภริยาจำเลยจึงฟ้องหย่าโจทก์ได้ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1516(1) เดือนพฤษภาคม 2520 โจทก์จำเลยทะเลาะทุบตีกัน จำเลยไล่โจทก์ออกจากบ้าน แต่หลังจากนั้นโจทก์ยังไปมาหาสู่จำเลยและเคยรับจำเลยไปรับประทานอาหารด้วยกัน ประมาณปี 2523 โจทก์ไปรับจำเลยมาอยู่ด้วย 3-4 เดือน จำเลยถูกบิดาโจทก์ไล่ออกจากบ้าน จึงกลับไปอยู่บ้านเดิม แต่โจทก์ยังไปมาหาสู่จำเลยโดยให้เงินใช้เดือนละ 4,000บาท ในปี 2527 จำเลยบวชชีโจทก์ทราบก็พูดว่าบวชก็ดีและไปเยี่ยมจำเลยกับส่งเงินให้จำเลยเดือนละ 4,000 บาท เพิ่งจะงดส่งเงินนับแต่เดือนมกราคม 2529 เป็นต้นมา ดังนี้ แม้โจทก์จะมีเหตุหย่าจำเลยตามกฎหมายก็ตาม แต่พฤติการณ์ต่าง ๆ ที่ปรากฏถือได้ว่าโจทก์ให้อภัยในการกระทำของจำเลยแล้ว สิทธิฟ้องหย่าของโจทก์ย่อมหมดไปตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1518 เหตุแห่งการหย่าเป็นความผิดของโจทก์ฝ่ายเดียวที่อุปการะเลี้ยงดูและยกย่องหญิงอื่นฉันภริยา จำเลยไม่ประกอบอาชีพอะไรโจทก์เคยให้จำเลยเป็นค่าใช้จ่ายเดือนละ 4,000 บาท ฉะนั้นการที่โจทก์จำเลยหย่ากันย่อมทำให้จำเลยยากจนลง จำเลยจึงมีสิทธิได้รับค่าเลี้ยงชีพจากโจทก์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1526
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1516
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1518
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1526

ผู้พิพากษา

ประพัฒน์ อุชุภาพ
บุญส่ง วรรณกลาง
สะสม สิริเจริญสุข

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android