คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2592/2529

 แหล่งที่มา: สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
โรงเรือนของโจทก์เป็นประเภทโรงงานโรงเรือนของบริษัทท.เป็นโรงเรือนธรรมดาสภาพของโรงเรือนไม่เหมือนกันพนักงานของจำเลยที่1นำอัตราค่าเช่าโรงเรือนของบริษัทท. ซึ่งให้บริษัทข. เช่ามาเป็นเกณฑ์คำนวณค่ารายปีของบริษัทโจทก์ด้วยจึงไม่ถูกต้องตามความเป็นจริงและที่โรงเรือนของบริษัทท. ให้เช่าได้เดือนละ101,000บาทก็เป็นเรื่องเฉพาะรายไม่ใช่อัตราค่าเช่าทั่วๆไปทั้งที่ดินและโรงเรือนดังกล่าวอยู่คนละถนนกันการที่พนักงานของจำเลยที่1แก้ไขค่ารายปีของโจทก์เป็นเหตุให้โจทก์ต้องเสียภาษีโรงเรือนเพิ่มขึ้นมากมายและอัตราส่วนที่เพิ่มก็ไม่แน่นอนดังนี้เป็นการประเมินเรียกเก็บภาษีที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายสมควรให้ประเมินเงินเพิ่มขึ้นปีละ20เปอร์เซนต์ตามภาวะค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น โรงพ่นสีของโจทก์ใช้เป็นที่พ่นสีกระเบื้องลอนคู่มุงหลังคาบ้านภายในโรงงานมีแท่นสายพาน 3แท่นยาวตลอดโรงงานติดตั้งถาวรกับเสาเหล็กมีกล่องเหล็กสำหรับอบความร้อนและพ่นสีหุ้มสายพานมีเครื่องพ่นสีติดตั้งอยู่เหนือแท่นสายพาน มีเครื่องปั๊มลมอยู่ด้านหลังใกล้ๆเครื่องปั๊มลมมีเครื่องทำความร้อน2เครื่องและมีท่อระบายความร้อนผ่านเหนือแท่นสายพานโรงพ่นสีของโจทก์จึงเป็นโรงเรือนที่ติดตั้งส่วนควบที่สำคัญมีลักษณะเป็นเครื่องจักรกลไกเพื่อใช้ดำเนินอุตสาหกรรมผลิตกระเบื้องของโจทก์ย่อมได้รับลดหย่อนค่ารายปีลงเหลือหนึ่งในสามตามมาตรา13แห่งพ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดินพุทธศักราช2475หาจำต้องเป็นเครื่องจักรกลไกที่มีลักษณะเป็นเครื่องกระทำหรือเครื่องกำเนิดสินค้าด้วยไม่ โจทก์เป็นบริษัทจำกัดมีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการค้าและประกอบการอุตสาหกรรมผลิตกระเบื้องกระดาษเพื่อมุ่งหาผลกำไรสำนักงานนายช่างก็คือสถานที่กำเนิดงานของโจทก์ส่วนโรงอาหารก็จัดไว้เพื่อพนักงานของโจทก์หรือผู้ที่มาติดต่อธุรกิจกับโจทก์ส่วนสถานพยาบาลก็เป็นสถานที่สำหรับรักษาพยาบาลให้แก่พนักงานของโจทก์โดยเฉพาะถือได้ว่าโจทก์ใช้โรงเรือนดังกล่าวเพื่อประโยชน์ในการประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมของโจทก์มิใช่โจทก์อยู่เองหรือให้ผู้แทนอยู่เฝ้ารักษาตามความหมายของมาตรา11แห่งพ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดินพุทธศักราช2475ที่แก้ไขแล้ว พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดินพุทธศักราช2475มาตรา39วรรคสองมีความหมายว่าในกรณีที่โจทก์ฟ้องขอคืนเงินค่าภาษีส่วนที่โจทก์จำต้องชำระเกินไปและศาลพิพากษาให้คืนจำเลยก็ต้องคืนให้โจทก์ภายในกำหนด3เดือนนับแต่คำพิพากษาถึงที่สุดไม่ต้องเสียดอกเบี้ยแต่ถ้าไม่คืนในกำหนดเวลาดังกล่าวจำเลยก็ต้องเสียดอกเบี้ย(ร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี)ให้โจทก์โดยนับแต่วันครบกำหนด3เดือนจากวันที่คำพิพากษาถึงที่สุด.
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ.2475 มาตรา 8
  • พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ.2475 มาตรา 10
  • พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ.2475 มาตรา 13
  • พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ.2475 มาตรา 16
  • พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ.2475 มาตรา 18
  • พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ.2475 มาตรา 39

ผู้พิพากษา

เสวก จันทร์ผ่อง
สหัส สิงหวิริยะ
สาระ เสาวมล

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android