คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 239/2536

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
ข้อเท็จจริงตามคำฟ้องของโจทก์และคำให้การของจำเลยที่ 3ฟังได้ต้องกันว่า รถยนต์เกิดเหตุทั้งสองคันแล่นสวนทางกันและเกิดเฉี่ยวชนกันขึ้น การที่โจทก์ขอแก้ไขคำฟ้องเกี่ยวกับทิศทางวิ่งของรถยนต์ที่เกิดเหตุจากข้อความที่ว่า "รถยนต์คันหมายเลขทะเบียน80-4314 เชียงใหม่ ขับจากจังหวัดตากมุ่งหน้ามาจังหวัดกำแพงเพชร"เป็น"รถยนต์คันหมายเลขทะเบียน 80-4314 เชียงใหม่ ขับจากจังหวัดกำแพงเพชรมุ่งหน้ามาจังหวัดตาก" จึงเป็นการขอแก้ไขข้อเท็จจริงให้เป็นไปตามความเป็นจริง ไม่ก่อให้เกิดผลตามกฎหมายที่แตกต่างกัน เป็นการขอแก้ไขข้อผิดพลาดบกพร่องในคำฟ้องเพียงเล็กน้อยและไม่ทำให้จำเลยที่ 3 เสียเปรียบในการต่อสู้คดี ไม่อยู่ในบังคับที่จะต้องปฏิบัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 180 วรรคสอง แม้โจทก์จะขอแก้ไขในวันสืบพยานก็ไม่ต้องห้ามตามกฎหมาย ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตให้โจทก์แก้ไขคำฟ้องชอบแล้ว เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้แล้วว่า จำเลยที่ 3 เป็นผู้รับประกันภัยรถยนต์ของจำเลยที่ 1 และศาลได้วินิจฉัยแล้วว่า เหตุเกิดเพราะผู้ขับรถยนต์ของจำเลยที่ 1 เป็นฝ่ายประมาท ซึ่งจำเลยที่ 3 ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ด้วย ดังนั้น ฟ้องแย้งของจำเลยที่ 3 จะขาดอายุความหรือไม่จึงไม่เป็นสาระแก่คดีอีกต่อไป ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 85
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 180
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249

ผู้พิพากษา

ดำรุพงศ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา
อากาศ บำรุงชีพ
ชลิต ประไพศาล

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android