คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6854/2537

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
ที่พิพาทมีราคา 30,000 บาท คดีจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248วรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นบทกฎหมายที่ใช้บังคับในขณะยื่นฎีกา ฎีกาจำเลยทุกข้อล้วนแล้วเป็นฎีกาโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลอุทธรณ์ภาค 2 เพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายที่จำเลยยกขึ้นกล่าวอ้างทั้งสิ้น จึงเป็นฎีกาในข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามบทกฎหมายดังกล่าว ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย การที่จำเลยได้ชำระเงินตามเช็คที่จำเลยได้สั่งจ่ายเพื่อชำระหนี้งวดแรกตามข้อตกลงในหนังสือรับสภาพหนี้จนครบถ้วน โดยมิได้ยกเหตุแห่งการถูกหลอกลวงให้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ขึ้นมาต่อสู้ย่อมแสดงให้เห็นว่าโจทก์ที่ 1 มิได้หลอกลวงให้จำเลยทำเอกสารดังกล่าวแต่อย่างใด ข้อกล่าวอ้างและการนำสืบของจำเลยที่ว่าถูกหลอกลวงให้ทำหนังสือรับสภาพหนี้ จึงเป็นการกล่าวอ้างและนำสืบลอย ๆ ไม่มีน้ำหนักรับฟังได้ เมื่อโจทก์ที่ 1 และจำเลยทำหนังสือมีข้อความว่าจำเลยยอมรับว่าได้เป็นหนี้โจทก์ที่ 1 จริงและตกลงชำระหนี้ดังกล่าวเป็นงวด ๆ จนครบ หากผิดนัดให้ฟ้องร้องบังคับคดีได้ทันทีข้อตกลงดังกล่าวเป็นหลักฐานแห่งสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 851 แล้ว จำเลยมิได้นำสืบให้เห็นว่าโจทก์ที่ 1 นำดอกเบี้ยจำนวนใดที่เกินอัตราที่กฎหมายกำหนดมารวมไว้ในจำนวนหนี้ในหนังสือรับสภาพหนี้ ศาลจะฟังว่าดอกเบี้ยที่มีรวมอยู่เป็นโมฆะซึ่งจำเลยไม่ต้องรับผิดในส่วนที่เป็นดอกเบี้ยต่อโจทก์ที่ 1 ไม่ได้ จำเลยจึงต้องรับผิดชำระหนี้ให้โจทก์ที่ 1ตามหนังสือรับสภาพหนี้
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 851
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248

ผู้พิพากษา

อธิราช มณีภาค
มงคล สระฏัน
วุฒิ คราวุฒิ

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android