คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1360/2544

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของ ป. กับ ศ. มีสินสมรสคือ ที่ดินตาม น.ส. 3 ก. ต่อมา ป. ตาย ที่ดินจึงเป็นมรดกตกทอดแก่ทายาท ต่อมา ศ. โอนที่ดินให้จำเลย จำเลยได้ไปขอออกโฉนด ขอให้จำเลยแบ่งที่ดินมรดกในส่วนที่โจทก์มีสิทธิได้รับ จำเลยให้การไว้ว่า ศ. ยกที่ดินพิพาทให้จำเลย จำเลยได้ที่ดินพิพาทมาโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน คำให้การของจำเลยจึงขัดแย้งกันเอง เพราะการที่ ศ. ยกที่ดินพิพาทให้จำเลยย่อมเห็นได้ในเบื้องต้นว่าเป็นการให้โดยเสน่หาซึ่งไม่มีค่าตอบแทน หากจำเลยเสียค่าตอบแทนอย่างไรก็ต้องกล่าวไว้ในคำให้การให้ชัดแจ้ง คำให้การเช่นนี้จึงไม่มีประเด็นในเรื่องการรับโอนที่ดินพิพาทโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน เมื่อศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเป็นประเด็นข้อพิพาทไว้ จำเลยก็มิได้คัดค้านว่าประเด็นข้อพิพาทที่ศาลชั้นต้นกำหนดไว้ไม่ครบถ้วน การที่จำเลยยกประเด็นข้อนี้ขึ้นอ้างในอุทธรณ์จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยชอบแล้ว
ฎีกาของจำเลยในข้อที่ว่า ที่ดินพิพาทติดจำนอง จำเลยไถ่ถอนจำนองเอง ซึ่งเป็นการได้ที่ดินโดยเสียค่าตอบแทนและโจทก์ได้รับมรดกส่วนของตนไปแล้วนั้น จำเลยมิได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ในคำให้การจึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 177
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 183
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249

ผู้พิพากษา

วสันต์ สร้อยพิสุทธิ์
กำพล ภู่สุดแสวง
สุรชาติ บุญศิริพันธ์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android