คำพิพากษาย่อสั้น
การร้องขอให้ถอนผู้จัดการมรดกนั้นกฎหมายมิได้บัญญัติบังคับว่า ผู้มีส่วนได้เสียจะต้องร้องขอเข้ามาในคดีเดิม คือในคดีที่ศาลมีคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดกแต่อย่างใดไม่ ดังนั้น แม้จะไม่มีการฟ้องขอแบ่งทรัพย์มรดกด้วย ผู้ร้องก็ชอบที่จะร้องขอต่อศาลให้สั่งถอนผู้คัดค้านจากการเป็นผู้จัดการมรดกเป็นคดีใหม่ต่างหากจากคดีเดิมได้
ข้อคัดค้านที่ว่าผู้ร้องไม่มีส่วนได้เสีย ที่ดินพิพาทไม่ใช่ทรัพย์มรดก เป็นของผู้คัดค้านซื้อมา ผู้คัดค้านมิได้ยกขึ้นต่อสู้ไว้ในคำคัดค้าน ไม่เป็นประเด็นต้องวินิจฉัย แม้ศาลล่างทั้งสองจะวินิจฉัยมาก็เป็นการวินิจฉัยที่ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา ส่วนปัญหาที่ว่าผู้คัดค้านจดทะเบียนโอนทรัพย์พิพาทเป็นของตนเองหมดแล้ว การจัดการมรดกเสร็จแล้ว แม้ผู้คัดค้านจะยกขึ้นต่อสู้ไว้ แต่ศาลชั้นต้นไม่ได้วินิจฉัยและผู้คัดค้านมิได้กล่าวอ้างในคำแก้อุทธรณ์ ปัญหาเรื่องนี้จึงไม่มีประเด็นสู่การพิจารณาของศาลอุทธรณ์ปัญหาข้างต้นจึงถือมิได้ว่าเป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วแต่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรน์ ต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ป.วิ.พ. มาตรา 249
คดีร้องขอให้ศาลสั่งถอนผู้จัดการมรดกนั้น ป.พ.พ. มาตรา 1727 บัญญัติให้ผู้มีส่วนได้เสียต้องร้องขอเสียก่อนที่การปันมรดกเสร็จสิ้นลงเท่านั้น มิใช่คดีฟ้องเรียกทรัพย์มรดกหรือคดีเกี่ยวกับการจัดการมรดก จึงจะนำอายุความฟ้องคดีมรดกและคดีเกี่ยวกับการจัดการมรดกตาม ป.พ.พ. มาตรา 1754 และ 1733 มาใช้บังคับหาได้ไม่