คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1371/2513

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
ผู้เสียหายเป็นโจทก์ฟ้องคดีแพ่งให้จำเลยรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนเนื่องจากการกระทำละเมิดต่อโจทก์ แม้จะได้ความว่าผู้เสียหายผู้เป็นโจทก์มีส่วนกระทำการอันเป็นละเมิดนั้นอยู่ด้วย ก็ไม่ทำให้อำนาจฟ้องของผู้เสียหายหมดไป
แม้สัญญาการเดินรถร่วมกันระหว่างบริษัทจำเลยที่ 3 กับจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นเจ้าของรถ จะไม่มีกรรมการลงชื่อแทนบริษัทอันเป็นการผิดข้อบังคับของบริษัทจำเลยที่ 3 ก็ตาม เมื่อบริษัทจำเลยที่ 3 รับเอาผลของสัญญา และปล่อยให้รถของจำเลยที่ 2 เดินร่วมทางและให้อยู่ในความควบคุมของจำเลยที่ 3 รับส่งคนโดยสารในปกติธุรกิจของตนเช่นนี้ ถือได้ว่าจำเลยที่ 3 ได้ร่วมกับจำเลยที่ 2 เป็นเจ้าของรถคันนี้แล้ว เมื่อจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 2 กระทำการอันเป็นละเมิดขึ้นจำเลยที่ 3 ย่อมต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 2 และที่ 3 ในผลแห่งการละเมิดนั้นด้วย
การคำนวณค่าสินไหมทดแทนในกรณีละเมิดนั้น เมื่อความเสียหายอันเกิดจากการละเมิดนั้น ผู้เสียหายมีส่วนกระทำการละเมิดนั้นอยู่ด้วย ก็ต้องนำบทบัญญัติมาตรา 442 ประกอบด้วยมาตรา 223 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้บังคับ แต่ศาลย่อมมีอำนาจหยิบยกเอาเหตุที่โจทก์มีส่วนประมาทด้วยมาเป็นข้อวินิจฉัยได้
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 425
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 427
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 442
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 223
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55

ผู้พิพากษา

ถาวร หุตะโกวิท
ชลอ บุปผเวส
จรัญ อิศระ

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android