คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 185/2511

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
คดีที่ศาลพิพากษาให้ลงโทษปรับและให้จำเลยออกจากป่าที่แผ้วถาง เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา กล่าวคือ ยังครอบครองป่าที่ศาลสั่งให้ออกอยู่ โจทก์จึงมีคำขอต่อศาลให้บังคับคดี ศาลย่อมมีอำนาจดำเนินกระบวนพิจารณาชั้นบังคับคดีแก่จำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 297 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 โดยไม่จำเป็นจะต้องให้โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยในทางแพ่งขึ้นมาใหม่ จำเลยจะอ้างว่าตนได้ครอบครองที่ป่ามาช้านานจนกลายเป็นที่นา ดังนี้ถือว่า เป็นการอ้างข้อเท็จจริงมาใหม่ขัดกับข้อเท็จจริงที่ฟังเป็นยุติในทางพิจารณา หากจะฟังข้อเท็จจริงที่จำเลยอ้างมา ก็เท่ากับให้ดำเนินคดีกับจำเลยใหม่ ซึ่งจะมีผลเป็นการแก้คำพิพากษาซึ่งถึงที่สุดแล้ว ย่อมเป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 190 โดยห้ามมิให้แก้ไขคำพิพากษาหรือคำสั่งซึ่งอ่านแล้ว นอกจากถ้อยคำที่เขียนหรือพิมพ์ผิดพลาด
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 7, 11, 54, 55, 72, 72 ตรี, 73, 74
  • พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 11
  • พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 16
  • พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 17
  • พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 18
  • พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 21
  • ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 6
  • ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9
  • ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 108
  • พระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ.2505 มาตรา 3
  • พระราชกฤษฎีกากำหนดไม้หวงห้าม พ.ศ.2505 มาตรา 4
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 297
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 190

ผู้พิพากษา

สวิง ลัดพลี
ชลัม รุทระวณิช
ลออง จุลกะเศียน

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android