คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1835/2531

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่าฎีกาของจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงทั้งสิ้นต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 จึงไม่รับจำเลยเห็นว่าฎีกาของจำเลยเป็นปัญหาข้อกฎหมาย เรื่องการลงโทษและเหตุบรรเทาโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56และเรื่องเหตุบรรเทาโทษเพราะรับสารภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์แถลงข้างคำร้องว่าได้รับสำเนาแล้ว (อันดับ 12)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 67 ลงโทษจำคุก 2 ปีจำเลยให้การรับสารภาพมีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 1 ปี พิเคราะห์รายงานการสืบเสาะแล้วไม่มีเหตุสมควร รอการลงโทษ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับดังกล่าว (อันดับ 11)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 12)




คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษสถานเบาหรือรอการลงโทษเป็นฎีกาดุลพินิจของศาล จึงเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 ให้ยกคำร้อง
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 224

ผู้พิพากษา

ชูเชิด รักตะบุตร์
ถาวร ตันตราภรณ์
สัมฤทธิ์ ไชยศิริ

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android