คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1432/2529

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 

ความว่า โจทก์ได้ตกลงกับจำเลยที่ 4 แล้ว และยินยอมออกจากที่พิพาท จำเลยที่ 4 จึงขอถอนฟ้องฎีกาของจำเลยที่ 4 โปรดอนุญาตและคืนค่าขึ้นศาลให้แก่จำเลยที่ 4 ด้วย
หมายเหตุ จำเลยที่ 2 และที่ 6 ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้องคดีสองสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกับคดีอื่นอีกหนึ่งสำนวน โดยเรียกจำเลยที่ 2 ในคดีทั้งสองสำนวนว่า โจทก์ เรียกจำเลยที่ 1 ในคดีทั้งสองสำนวนว่า จำเลยที่ 2 เรียกโจทก์ในคดีทั้งสองสำนวนว่า จำเลยที่ 4 และเรียกจำเลยที่ 3 ในสำนวนหลังว่า จำเลยที่ 6ศาลชั้นต้นพิพากษา ให้โจทก์และบริวารออกจากที่ดินพิพาทตามน.ส.3 เลขที่ 47/8 และเลขที่ 52/30 ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอยจังหวัดสระบุรี ของจำเลยที่ 4 ห้ามมิให้โจทก์และบริวารเกี่ยวข้องในที่ดินดังกล่าวต่อไป
โจทก์และจำเลยที่ 4 ต่างอุทธรณ์
ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ นายประยงค์โคกกระชายจำเลยที่ 4 ได้มรณะ นายอุ่มโคกกระชาย จำเลยที่ 3 ขอเข้าเป็นคู่ความแทน ศาลชั้นต้นอนุญาต
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้โจทก์ใช้ค่าเสียหายจำนวนเงิน67,900 บาท แก่จำเลยที่ 4 และค่าเสียหายต่อไปปีละ 27,900 บาทนับแต่สิ้นฤดูทำนา พ.ศ. 2523 เป็นต้นไปจนกว่าโจทก์จะเลิกทำนาในที่ดิน ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์เลขที่ 47/8 และเลขที่ 52/30ตำบลชะอม อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 4 ฎีกา (อันดับ 280)
จำเลยที่ 4 ยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 317)




คำสั่ง
อนุญาตให้จำเลยที่ 4 ถอนฎีกา คืนค่าขึ้นศาลให้จำเลยที่ 4สามในสี่จำหน่ายคดีเสียจากสารบบความศาลฎีกา
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 132
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 150
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 175

ผู้พิพากษา

ดำริ ศุภพิโรจน์
อำนวย อินทุภูติ
สมศักดิ์ จูสวัสดิ์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android