คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 97/2558

 แหล่งที่มา: ส่วนเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยฯ
 เผยแพร่เมื่อ: 5 ก.ค. 2559 11:20:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
คดีที่เอกชนยื่นฟ้องกรมที่ดินซึ่งเป็นหน่วยงานทางปกครองเป็นจำเลยที่ ๑ และเอกชนเป็นจำเลยที่ ๒ และที่ ๓ อ้างว่า เจ้าหน้าที่ของจำเลยที่ ๑ ย้ายรูปแปลงที่ดินของที่ดินตาม น.ส. ๓ ก. เลขที่ ๑๗๕๗ ของจำเลยที่ ๒ เข้ามาอยู่ในรูปแผนที่โฉนดที่ดินของโจทก์และออกโฉนดที่ดินเลขที่ ๓๕๘๔ ให้จำเลยที่ ๒ ทับที่ดินของโจทก์ ทำให้ที่ดินของโจทก์มีเนื้อที่ไม่ครบตามจำนวนที่ระบุไว้ในโฉนดที่ดินและรูปแผนที่ในโฉนดที่ดินมีขนาดเล็กลงรวมทั้งยังรุกล้ำเข้าไปในโฉนดที่ดินของโจทก์จำนวน ๓๗ ตารางวา ขอให้พิพากษาหรือมีคำสั่งห้ามมิให้จำเลยที่ ๒ และที่ ๓ หรือบริวารเข้าไปเกี่ยวข้องกับที่ดินพิพาทและให้จำเลยที่ ๑ เพิกถอนโฉนดที่ดินเลขที่ ๓๕๘๔ เฉพาะส่วนที่รุกล้ำเข้าไปในที่ดินของโจทก์ จำเลยที่ ๑ ให้การว่า โจทก์ครอบครองที่ดินตามเนื้อที่ตามที่ระบุในโฉนด ส่วนจำเลยที่ ๓ ให้การว่า ซื้อที่ดินมาจากจำเลยที่ ๒ โดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน เห็นว่า กรณีตามคำฟ้องเป็นข้อพิพาทเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่พิพาทและที่ดินข้างเคียง อันเป็นกรณีโต้แย้งเกี่ยวกับสิทธิในที่ดิน การที่โจทก์มีคำขอห้ามจำเลยที่ ๒ และที่ ๓ หรือบริวารเข้าเกี่ยวข้องกับที่ดินพิพาทโดยให้จำเลยที่ ๑ เพิกถอนโฉนดที่ดินเลขที่ ๓๕๘๔ ส่วนที่รุกล้ำที่ดินของโจทก์ก็เพื่อให้ศาลมีคำพิพากษารับรองคุ้มครองสิทธิในที่ดินของโจทก์ และการที่ศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งตามคำขอของโจทก์ได้นั้น ศาลจำต้องพิจารณาให้ได้ความเสียก่อนว่า ที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ตามที่กล่าวอ้างหรือไม่เป็นสำคัญ แล้วจึงจะพิจารณาประเด็นอื่นได้ต่อไป จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับสิทธิในที่ดิน อันอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลยุติธรรม
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542
  • ประมวลกฎหมายที่ดิน
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android