คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2596/2537

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า จำเลยฎีกาในปัญหา ข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ว่า ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยเกินขอบเขตแห่งความเป็นจริงและเป็นการคาดคะเนเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้น เป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งให้รับ ฎีกาของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 18)
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 357 วรรคแรก กระทงเดียว ถึงแม้จะ เป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดฐานลักทรัพย์ต่างกรรมกัน แต่จำเลยได้รับทรัพย์ดังกล่าวไว้ในคราวเดียวกัน ให้จำคุก 2 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษ ให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี และให้จำเลยคืนหรือใช้ราคาทรัพย์ ที่ยังไม่ได้คืนจำนวน 6,500 บาท แก่ผู้เสียหาย ส่วนคำขออื่นให้ยก
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 17)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 18)




คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ปัญหาว่าศาลอุทธรณ์วินิฉัย เกินความจริง และคาดคะเนเหตุการณ์มาลงโทษจำเลยหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย ให้รับฎีกาของจำเลยไว้ดำเนินการต่อไป
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

ผู้พิพากษา

ปราโมทย์ ชพานนท์
อุระ หวังอ้อมกลาง
เสริม บุญทรงสันติกุล

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android