คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1755/2537

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 

ความว่า จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ว่า ฎีกาของจำเลยทั้งสองเป็นปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคหนึ่ง จึงไม่รับฎีกา
จำเลยทั้งสองเห็นว่า ฎีกาที่ว่าพยานหลักฐาน ของโจทก์ยังมีข้อเคลือบแคลงสงสัยว่าจำเลยทั้งสอง เป็นผู้กระทำผิดจริงหรือไม่ อันสมควร ยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้นให้จำเลยทั้งสอง เป็นปัญหาข้อกฎหมาย โปรดมีคำสั่งรับฎีกาของ จำเลยทั้งสองไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว(อันดับ 102)
คดีทั้งสองสำนวนนี้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้รวมการพิจารณาพิพากษาคดีเข้าด้วยกัน โดยให้เรียกจำเลยใน สำนวนแรกว่าจำเลยที่ 1 และเรียกจำเลย ในสำนวนหลังว่า จำเลยที่ 2
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 335(1)(4)(7) วรรคสามจำคุกคนละ 4 ปี
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกา ดังกล่าว (อันดับ 93)
จำเลยทั้งสองจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 102)




คำสั่ง
ฎีกาจำเลยทั้งสองเป็นฎีกาโต้เถียงดุลพินิจ ในการรับฟังพยานหลักฐานของศาล จึงเป็นฎีกา ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคหนึ่ง ศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาจำเลย ชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

ผู้พิพากษา

ปรีชา เฉลิมวณิชย์
ธีระจิต ไชยาคำ
สถิตย์ สิทธิลักษณ์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android