คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 469/2537

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 

ความว่า จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 1
จำเลยที่ 1 เห็นว่า คดีไม่มีการชี้สองสถาน โจทก์มีหน้าที่ต้องนำสืบข้อเท็จจริงตามคำฟ้องทั้งหมด จำเลยที่ 1 ยื่นคำให้การและมิได้ขาดนัดพิจารณา ศาลต้องวินิจฉัยข้อเท็จจริงจากทางนำสืบของโจทก์และจำเลยที่ 1 ทั้งหมดจะกำหนดปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยในประเด็นใดประเด็นหนึ่งมิได้เพราะมิได้กำหนดประเด็นไว้ นอกจากนี้จำเลยที่ 1 ในฐานะเจ้าของและปรากฏชื่อในทะเบียนรถยนต์ ย่อมเป็นผู้มีส่วนได้เสียในผลแห่งคดีนี้ด้วย โปรดมีคำสั่งให้รับฎีกาของจำเลยที่ 1 ไว้พิจารณาพิพากษาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 2 ไปจดทะเบียนโอนใส่ชื่อโจทก์ในใบคู่มือการจดทะเบียนรถยนต์ ยี่ห้อ บี.เอ็ม.ดับบลิวรุ่น 520 หมายเลขทะเบียน 1 ง-0494 กรุงเทพมหานคร และ ส่งมอบเอกสารดังกล่าวให้แก่โจทก์ หากจำเลยที่ 2 ไม่ไป ให้ถือเอาคำพิพากษาแสดงเจตนาของจำเลยที่ 2 ในการจดทะเบียนต่อไปยกฟ้องจำเลยที่ 1
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว (อันดับ 74)
จำเลยที่ 1 จึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 77)




คำสั่ง
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ฎีกาของจำเลยที่ 1 ไม่ได้กล่าวไว้โดยชัดแจ้งว่าคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ไม่ชอบด้วยข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายอย่างไร เป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความแพ่ง มาตรา 249 ที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาของจำเลยที่ 1 นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล ให้ยกคำร้อง
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249

ผู้พิพากษา

พรชัย สมรรถเวช
สถิตย์ ไพเราะ
สมคิด ไตรโสรัส

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android