คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3/2537

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 

ความว่า จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งว่า ฎีกาของจำเลยเป็นการบิดเบือน ข้อเท็จจริงเพื่อให้เป็นข้อกฎหมาย เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 218 จึงไม่รับฎีกา
จำเลยเห็นว่า ฎีกาจำเลยเป็นฎีกาในปัญหาข้อกฎหมายขอศาลฎีกาโปรดรับฎีกาจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ โจทก์ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
คดีทั้งสองสำนวน ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษารวมกันโดยเรียกโจทก์สำนวนแรกและโจทก์สำนวนหลังเป็นโจทก์ที่ 1และที่ 2 ตามลำดับ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 ลงโทษจำคุก 3 ปี
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยฎีกา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับฎีกาดังกล่าว(อันดับ 131)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 132 แผ่นที่ 4)




คำสั่ง
พิเคราะห์ฎีกาของจำเลยแล้ว เห็นว่าศาลล่างทั้งสองฟัง ข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติต้องกันว่าจำเลยได้ชกต่อยทำร้ายผู้ตายถึงแก่ความตายอันเป็นความผิดตามฟ้อง จำเลยโต้เถียงว่าผู้ตายตายเพราะเกิดเหตุชุลมุนและจำเลยมิได้ทำร้ายผู้ตาย เป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลล่างทั้งสองฎีกาของจำเลยจึงเป็นฎีกาปัญหาข้อเท็จจริงทั้งสิ้น ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 วรรคแรกศาลชั้นต้นไม่รับฎีกาชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

ผู้พิพากษา

จองทรัพย์ เที่ยงธรรม
สมมาตร พรหมานุกูล
ทองเลื่อน พูลพิพัฒน์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android