คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 59/2557

 แหล่งที่มา: ส่วนเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยฯ
 เผยแพร่เมื่อ: 19 มิ.ย. 2558 09:51:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
คดีที่โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ ๒ ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำ สำนักชลประทาน ได้ขออนุมัติงบประมาณจากจำเลยที่ ๑ เพื่อปรับปรุงระบบชลประทานคลองส่งน้ำ จำเลยที่ ๒ และจำเลยที่ ๓ ได้มอบหมายให้จำเลยที่ ๔ ติดต่อว่าจ้างให้โจทก์ทำการถมดิน ปรับแนวคันคลอง และหารถโม่ปูนเพื่อก่อสร้างดาดคอนกรีต แล้วไม่ชำระราคา ขอให้บังคับจำเลยทั้งสี่ร่วมกันชำระเงินค่าจ้างที่ค้างชำระให้แก่โจทก์ จำเลยทั้งสี่ให้การว่า ไม่เคยดำเนินการตามฟ้องและไม่เคยชำระเงินค่าจ้างให้แก่โจทก์ จึงต้องพิจารณาว่าสัญญาว่าจ้างระหว่างโจทก์และจำเลยทั้งสี่ดังกล่าวเป็นสัญญาทางแพ่งหรือสัญญาทางปกครอง เห็นว่า คดีนี้จำเลยที่ ๑ เป็นนิติบุคคลมีฐานะเป็นกรม สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จึงเป็นหน่วยงานทางปกครอง ตามมาตรา ๓ แห่งพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ มีหน้าที่ในการจัดหาแหล่งน้ำและพัฒนาระบบชลประทาน จัดให้มีการระบายน้ำหรือจัดสรรน้ำ เพื่อการสาธารณูปโภค เมื่อข้อเท็จจริงตามคำฟ้องโจทก์อ้างว่า จำเลยที่ ๒ และจำเลยที่ ๓ ได้มอบหมายให้จำเลยที่ ๔ ติดต่อว่าจ้างให้โจทก์ทำการถมดิน ปรับแนวคันคลอง และหารถโม่ปูนเพื่อก่อสร้างดาดคอนกรีต เพื่อปรับปรุงระบบชลประทานคลองส่งน้ำ ของจำเลยที่ ๑ จึงเป็นการกล่าวอ้างว่าจำเลยที่ ๑ มอบหมายให้จำเลยที่ ๒ ดำเนินการจัดหาวัสดุและอุปกรณ์การก่อสร้างดังกล่าวไปใช้ในกิจการชลประทาน ซึ่งเป็นภารกิจในการให้บริการระบบชลประทานแก่ประชาชนเพื่อการสาธารณูปโภค อันเป็นการจัดทำบริการสาธารณะของจำเลยที่ ๑ สัญญาว่าจ้างดังกล่าว จึงเป็นสัญญาทางปกครอง ตามมาตรา ๓ แห่งพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ ข้อพิพาทในคดีนี้จึงอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครองตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๔) แห่งพระราชบัญญัติเดียวกัน
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
  • พระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ.2545
  • พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android