คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1362/2536

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 

ความว่า จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางสั่งว่า อุทธรณ์ของจำเลยเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522มาตรา 54 ไม่รับอุทธรณ์ของจำเลย
จำเลยเห็นว่า การกระทำของโจทก์ที่ประสงค์จะนำเอกสารอันเป็นความลับอย่างมากของบริษัทจำเลยไปให้แก่บุคคลภายนอกนั้น เป็นการจงใจทำให้จำเลยได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงซึ่งจำเลยสามารถที่จะเลิกจ้างโจทก์ได้ โปรดมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์ของจำเลยไว้พิจารณาต่อไป
หมายเหตุ ทนายโจทก์ได้รับสำเนาคำร้องแล้ว (อันดับ 47)
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยชำระสินจ้างแทนการบอกกล่าว ล่วงหน้าเป็นเงิน 51,000 บาท ค่าชดเชยเป็นเงิน 180,000 บาท ค่าดำเนินกิจการแทนจำเลยเป็นเงิน 112,333 บาท ค่าจ้างค้างจ่าย เป็นเงิน 7,000 บาท ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี เป็นเงิน 10,000 บาท และค่าเสียหายจากการเลิกจ้าง ไม่เป็นธรรมเป็นเงิน 150,000 บาท แก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์(อันดับ 40)
จำเลยจึงยื่นคำร้องนี้ (อันดับ 43)




คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว ที่จำเลยอุทธรณ์ว่า จำเลยใช้วิธีเอารถยนต์ ประจำตำแหน่งให้โจทก์ใช้แทนค่าจ้าง จึงไม่ต้องจ่ายเงินค่าดำเนินกิจการแทนจำเลยจำนวน 112,333 บาทก็ดี การกระทำของโจทก์เป็นการจงใจเปิดเผยความลับทางธุรกิจการค้าทำให้จำเลยได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงก็ดี เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงทั้งสิ้นที่ศาลแรงงานกลางสั่งไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยชอบแล้ว ให้ยกคำร้อง
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 54

ผู้พิพากษา

อัมพร ทองประยูร
ปรีชา ธนานันท์
วิทูรย์ สุทธิประภา

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android