คำพิพากษาย่อสั้น
ความว่า คดีนี้ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2535 จำเลยยื่นฎีกาโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐาน ของศาลอุทธรณ์ภาค 1 ซึ่งเป็นข้อเท็จจริง ประกอบกับคดีนี้ มีทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาเพียง 61,000 บาท ฎีกาของ จำเลยจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 248 และโจทก์ได้คัดค้านไว้ในคำแก้ฎีกาของโจทก์ ลงวันที่ 4 กันยายน 2535 ข้อ 2 แล้ว ด้วยเหตุดังกล่าวมานี้ โจทก์ขอให้ศาลได้โปรดพิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้น ในปัญหาดังกล่าวด้วย ซึ่งจะทำให้คดีเสร็จไปทั้งเรื่อง โดยไม่ล่าช้า โปรดอนุญาต
หมายเหตุ จำเลยยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ในที่ดินตามโฉนดที่ดินโฉนดที่ 1274 เล่ม 13 หน้า 74 เลขที่ดิน 114 หน้าสำรวจ 146 ตำบลนากลาง อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา ในส่วนที่โจทก์มีชื่อถือกรรมสิทธิ์ด้วย คำขออื่นของโจทก์จำเลยให้ยก
ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับ ให้จำเลยไปจดทะเบียนแบ่งแยกที่ดินตามโฉนดเลขที่ 1274 ให้โจทก์ โดยส่วนของโจทก์ได้เนื้อที่ 4 ไร่ 56 ตารางวา ทางทิศตะวันออก ตามความยาว จากทิศเหนือไปจดทิศใต้ของที่ดิน หากจำเลยไม่ยอมไป จดทะเบียนแบ่งแยกให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนา หากไม่สามารถแบ่งได้ให้นำที่ดินออกขายทอดตลาดนำเงินมาแบ่ง ให้โจทก์ตามส่วนที่โจทก์มีสิทธิในที่ดิน
จำเลยฎีกา (อันดับ 61)
คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา
โจทก์ยื่นคำร้องดังกล่าว (อันดับ 72)
คำสั่ง
พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าการขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดเบื้องต้นในปัญหาข้อกฎหมาย คู่ความจะต้องยื่นคำขอระหว่าง พิจารณาของศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นเป็นผู้สั่งโจทก์จะยื่นคำขอ ต่อศาลฎีกาไม่ได้ ให้ยกคำร้อง