คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2/2557

 แหล่งที่มา: ส่วนเลขานุการคณะกรรมการวินิจฉัยฯ
 เผยแพร่เมื่อ: 24 พ.ย. 2557 15:49:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
คดีที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ยื่นคำร้องขอให้วินิจฉัยชี้ขาดว่าคำพิพากษาที่ถึงที่สุดระหว่างศาลขัดแย้งกัน ซึ่งมูลความแห่งคดีนี้สืบเนื่องจากการที่จำเลยซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำละเมิดต่อหน่วยงานของรัฐ และหน่วยงานของรัฐมีคำสั่งให้จำเลยชดใช้เงินตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ ต่อมาศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้จำเลยชดใช้เงินจำนวน ๘,๙๘๗.๔๔ บาท และศาลฎีกามีคำพิพากษาให้จำเลยชดใช้เงินจำนวน ๑๖,๑๑๓ บาท โดยคำพิพากษาของทั้งสองศาลต่างถึงที่สุด ดังนี้แม้ว่าโจทก์จะยื่นคำร้องให้คณะกรรมการวินิจฉัยเมื่อพ้นกำหนด ๖๐ วัน นับแต่วันที่มีคำพิพากษาของศาลคดีหลังสุด อันเป็นการล่วงเลยระยะเวลาตาม ม. ๑๔ แห่ง พระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล พ.ศ. ๒๕๔๒ ก็ตาม แต่กำหนดเวลาดังกล่าวหาใช่อายุความไม่ เมื่อคู่ความยังมิได้รับการเยียวยาความเสียหาย เพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรม คณะกรรมการจึงรับคำร้องไว้พิจารณา ตามข้อบังคับคณะกรรมการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล ว่าด้วยวิธีการเสนอเรื่อง การพิจารณาและการวินิจฉัย พ.ศ. ๒๕๔๔ ข้อ ๔ เมื่อปรากฏว่าคดีนี้จำเลยซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยจงใจหรือประมาทเลินเล่ออันเป็นการทำละเมิดต่อหน่วยงานของรัฐ จึงต้องอยู่ภายใต้บังคับแห่งพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๓๙ ทั้งโจทก์ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐได้ดำเนินการไปตามพระราชบัญญัตินี้จนถึงขั้นออกคำสั่งทางปกครองให้จำเลยชำระเงินค่าเสียหาย และมีการตรวจสอบความชอบของการดำเนินการ โดยศาลปกครองกลางซึ่งเป็นฝ่ายตุลาการแล้วด้วย จึงควรให้มีการดำเนินการไปจนจบขั้นตอน เพื่อให้การเป็นไปตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติฉบับนี้ จึงให้คู่ความปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • พระราชบัญญัติว่าด้วยการวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจหน้าที่ระหว่างศาล พ.ศ.2542

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android