คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 14406/2555

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 28 เม.ย. 2558 10:11:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
ขณะที่จำเลยทั้งสองปลอมคำร้องขอเป็นสมาชิกของโจทก์ราย ก. มีลูกจ้างโจทก์รับไปดำเนินการ โจทก์ยังไม่มีฐานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย คงมีเพียงคณะกรรมการดำเนินการขอจัดตั้งสมาคม ผู้เสียหายสำหรับความผิดฐานปลอมเอกสารคือบุคคลที่รับเอกสารปลอมจากจำเลยทั้งสองเท่านั้น แม้บุคคลดังกล่าวจะรับเอกสารไว้แทนคณะกรรมการดำเนินการโจทก์ ก็ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายสำหรับความผิดดังกล่าว
เมื่อ ก. ถึงแก่ความตายแล้ว จำเลยที่ 1 แสดงตนเป็นทายาทขอรับเงินตามเอกสารการขอรับเงิน มีจำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อเป็นพยาน โดยข้อความรายการต่าง ๆ ในเอกสารขอรับเงินกล่าวอ้างถึงฐานะของจำเลยที่ 1 ว่าเป็นทายาทของ ก. ผู้ตาย ซึ่งเป็นความเท็จ อันเป็นกล่าวอ้างถึงการสมัครเข้าเป็นสมาชิกของ ก. ตามคำร้องขอเป็นสมาชิกของ ก. ว่าเป็นความจริงอีกครั้ง ทั้งนี้ เพื่อให้โจทก์ตรวจสอบกับเอกสารดังกล่าวว่าถูกต้องแล้ว การที่จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งสมาคมโจทก์ลงลายมือชื่อรับรองเอกสารการขอรับเงิน แม้จะระบุว่าเป็นพยานก็ถือได้ว่าร่วมกับจำเลยที่ 1 ใช้เอกสารคำร้องขอเป็นสมาชิกปลอม เพื่อยืนยันความเป็นทายาทของจำเลยที่ 1 การกระทำของจำเลยทั้งสองในส่วนนี้ถือว่าเป็นการร่วมกันใช้เอกสารคำร้องขอเป็นสมาชิกอันเป็นเอกสารปลอม
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264
  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2
  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83

ผู้พิพากษา

สรรทัศน์ เอี่ยมวรชัย
ศรีอัมพร ศาลิคุปต์
นพพร โพธิรังสิยากร

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android