คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7978/2553

 แหล่งที่มา: สำนักวิชาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 20 ธ.ค. 2554 14:03:24

คำพิพากษาย่อสั้น

 
การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบเสาะและพินิจจำเลยทั้งสี่เพื่อต้องการทราบข้อเท็จจริงนำมาประกอบดุลพินิจว่าสมควรกำหนดโทษแก่จำเลยทั้งสี่สถานใด เพียงใด และเพื่อกำหนดวิธีการหรือเงื่อนไขอันสมควรและเหมาะสมที่จะปฏิบัติต่อจำเลยทั้งสี่ต่อไปเท่านั้น มิใช่มีคำสั่งให้พนักงานคุมประพฤติสืบพยานว่าจำเลยทั้งสี่กระทำความผิดตามฟ้องหรือไม่ และการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสี่เป็นอย่างไร ทั้งศาลก็ไม่มีอำนาจสั่งให้พนักงานคุมประพฤติปฏิบัติเช่นนั้น แม้ตาม พ.ร.บ.วิธีดำเนินการคุมความประพฤติตาม ป.อ.ฯ มาตรา 13 ศาลจะมีอำนาจรับฟังรายงานของพนักงานคุมประพฤติตามมาตรา 11 โดยไม่ต้องมีพยานบุคคลประกอบก็ตาม แต่เป็นการรับฟังเพื่อประกอบการพิจารณาเรื่องโทษและวิธีการที่จะดำเนินการแก่จำเลยทั้งสี่เท่านั้น มิได้เป็นการรับฟังในฐานะเป็นพยานหลักฐานที่จะนำมาวินิจฉัยการกระทำที่จำเลยทั้งสี่มีเจตนาร่วมกันทำร้ายผู้เสียหายทั้งห้าโดยรวม ไม่ได้แยกว่าใครเป็นใคร อันเป็นการกระทำที่มีเจตนาเดียวกัน เป็นความผิดกรรมเดียวตาม ป.อ. มาตรา 90 นั้น จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อตามคำฟ้องของโจทก์บรรยายโดยชัดแจ้งว่า จำเลยทั้งสี่กระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหลายกรรมต่างกันซึ่งความผิดทั้งห้าฐานเป็นคนละขั้นตอน อีกทั้งจำเลยทั้งสี่ก็ให้การรับสารภาพตามฟ้องถือได้ว่าจำเลยทั้งสี่มีเจตนากระทำความผิดต่อผู้เสียหายทั้งห้าแยกออกจากกัน การกระทำของจำเลยทั้งสี่จึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันตาม ป.อ. มาตรา 91
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • พระราชบัญญัติวิธีดำเนินการคุมความประพฤติตามประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2522 มาตรา 13
  • พระราชบัญญัติวิธีดำเนินการคุมความประพฤติตามประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ.2522 มาตรา 11
  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90

ผู้พิพากษา

อนัน ชุมวิสูตร
วรพจน์ วิไลชนม์
นิพนธ์ ใจสำราญ

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android