คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6294/2545

 แหล่งที่มา: เนติบัณฑิตยสภา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 

จำเลยเป็นผู้อาศัยปลูกบ้านอยู่ในที่ดินพิพาท มิใช่เป็นผู้มีส่วนได้เสียในคดีที่ ล. มารดาโจทก์ฟ้องบังคับให้ ท. จดทะเบียนโอนที่ดินพิพาทให้ ล. การที่จำเลยกับ ล. ทำสัญญากันระบุว่า ล. จะจดทะเบียนแบ่งแยกโอนที่ดินพิพาทเนื้อที่ 2 ไร่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินในคดีที่ ล. พิพาทกับ ท. ให้แก่จำเลยกับให้เงินสดอีก 100,000บาท แก่จำเลยเพื่อตอบแทนที่จำเลยไปเบิกความเป็นพยานให้แสดงว่าจำเลยยอมไปเบิกความเป็นพยานโดยเห็นแก่ประโยชน์ที่จะได้รับดังกล่าวเป็นการตอบแทน จึงเป็นการแสวงหาประโยชน์จากการเป็นความของบุคคลอื่น จึงเป็นสัญญาที่มีวัตถุประสงค์เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113 เดิม จำเลยจึงฟ้องแย้งบังคับให้โจทก์ปฏิบัติตามสัญญาดังกล่าวไม่ได้
โจทก์ขอให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์นับถัดจากวันฟ้องเป็นต้นไป การที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป จึงเกินคำขอของโจทก์ ปัญหานี้แม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา แต่เป็นปัญหาข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขเสียให้ถูกต้องตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142(5) ประกอบมาตรา 246,247
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113 เดิม
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142

ผู้พิพากษา

สบโชค สุขารมณ์
สมชาย พงษธา
ธีระวัฒน์ ภัทรานวัช

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android