คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 35/2501

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 

โจทก์ฟ้องจำเลยเพราะเหตุจำเลยละเมิดสิทธิครอบครองของโจทก์
ไม่ใช่เรื่องโจทก์ฟ้องเรียกมรดก จึงไม่จำเป็นต้องบรรยายว่าบิดาโจทก์ตายเมื่อใด และใครเป็นทายาทบ้าง
หนังสือมอบอำนาจท้ายฟ้อง (ให้จัดการทรัพย์สินและให้ฟ้องร้องได้)เป็นเอกสารแสดงการมอบอำนาจให้ทำการแทนในกิจการมากกว่าครั้งเดียวแต่มิได้กระทำในลักษณะเป็นรูปตราสารสัญญาหากเป็นเพียงเอกสารที่ทำแต่ลำพังผู้มอบอำนาจฝ่ายเดียวจึงต้องเสียอากรแสตมป์ตามบัญชีอัตราอากรแสตมป์ข้อ 7 ข. อันกำหนดไว้ 5 บาท หาใช่การมอบอำนาจทั่วไปในเรื่องตัวแทนตามข้อ 21 ข. ซึ่งกำหนดให้ปิด 10 บาท นั้นไม่เมื่อได้ปิดอากรแสตมป์ครบถ้วนถูกต้องดังนี้แล้ว ก็ใช้เป็นพยานหลักฐานในศาลได้
โจทก์เพิ่งทราบพฤติการณ์ของจำเลยเมื่อจำเลยที่ 3 ได้เข้ามารบกวนและบังอาจบุกรุกสิทธิการครอบครองของโจทก์อายุความจึงต้องนับตั้งแต่โจทก์รู้ถึงการละเมิดและนับแต่วันนั้นมาจนถึงวันฟ้องยังไม่เกิน1 ปี ฟ้องของโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172
  • ประมวลรัษฎากร มาตรา 118
  • ประมวลรัษฎากร มาตรา 118
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1374
  • บัญชีอัตราอากรแสตมป์ท้ายประมวลรัษฎากร มาตรา 1374

ผู้พิพากษา

มนูเวทย์วิมลนาท
พิบูลย์ไอศวรรย์
ประศาสน์วินิจฉัย

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android