คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1890/2547

 แหล่งที่มา: สำนักวิชาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 25 พ.ย. 2551 09:41:15

คำพิพากษาย่อสั้น

 
แม้โจทก์จะบรรยายฟ้องแยกฐานความผิดทั้งสองไว้คนละข้อ แต่ถ้าอ่านคำฟ้องโจทก์ตลอดแล้วย่อมเข้าใจได้ว่าจำเลยกระทำผิดในคราวเดียวกันโดยหลอกลวงผู้เสียหายทั้งยี่สิบเอ็ดว่าจำเลยกับพวกสามารถจัดส่งผู้เสียหายทั้งยี่สิบเอ็ดไปทำงานที่ประเทศออสเตรเลียได้ เมื่อโจทก์ฟ้องว่า ข. ยืนยันข้อเท็จจริงว่า จำเลยหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความเท็จว่าจำเลยกับพวกสามารถจัดส่งผู้เสียหายทั้งยี่สิบเอ็ดไปทำงานที่ประเทศออสเตรเลีย ความจริงแล้วจำเลยกับพวกไม่สามารถหางานและส่งผู้เสียหายทั้งยี่สิบเอ็ดไปทำงานที่ประเทศออสเตรเลียได้ เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงอยู่ในตัวว่าจำเลยไม่มีเจตนาจัดหางานให้แก่ผู้เสียหายทั้งยี่สิบเอ็ด คงมีเจตนาหลอกลวงเพื่อจะได้เงินจากผู้เสียหายทั้งยี่สิบเอ็ดเท่านั้น การกระทำของจำเลยตามฟ้องจึงไม่เป็นความผิดฐานจัดหางานโดยมิได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางานฯ มาตรา 30 วรรคหนึ่ง, 82 แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพศาลก็ลงโทษจำเลยไม่ได้
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 มาตรา 30
  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341
  • พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2528 มาตรา 82

ผู้พิพากษา

กำธร โพธิ์สุวัฒนากุล
สุรชาติ บุญศิริพันธ์
กิติศักดิ์ กิติคุณไพโรจน์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android