คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4798/2543

 แหล่งที่มา: สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 

ผู้ซื้อทรัพย์ประมูลซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างจากการขายทอดตลาดได้ในราคา 131,000,000 บาท จากนั้นผู้ซื้อทรัพย์ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นมีหนังสือแจ้งให้เจ้าพนักงานที่ดินโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินทั้งสี่แปลงให้แก่ผู้ซื้อทรัพย์ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่ดำเนินการให้เพราะว่าศาลมีคำสั่งให้งดการขายไว้แล้ว ผู้ซื้อทรัพย์จึงรับเงินค่าซื้อทรัพย์คืน95 เปอร์เซ็นต์เป็นการชั่วคราวและอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้น ถือว่าเป็นการกระทำโดยชอบเพื่อรักษาสิทธิของผู้ซื้อทรัพย์ที่ประสงค์จะได้รับโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดิน ต่อมาผู้ซื้อทรัพย์ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นมีหนังสือแจ้งเจ้าพนักงานที่ดินโอนที่ดินให้แก่ผู้ซื้อทรัพย์ ศาลชั้นต้นเห็นว่าการขายทอดตลาดชอบแล้วจึงมีหนังสือแจ้งเจ้าพนักงานที่ดินจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้ซื้อทรัพย์ตรงตามเจตนาของผู้ซื้อทรัพย์ แต่ผู้ซื้อทรัพย์กลับไม่ยอมนำเงินค่าซื้อทรัพย์ที่รับคืนไปมาวางให้ครบเพื่อดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินเป็นของตนทั้งยังแถลงต่อศาลชั้นต้นขอให้ส่งอุทธรณ์ไปให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยทำให้คดียิ่งเนิ่นช้าต่อไป ครั้นศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ยกอุทธรณ์ของผู้ซื้อทรัพย์ หากผู้ซื้อทรัพย์มิได้เจตนาถ่วงเวลาให้ล่าช้าก็ควรนำเงินมาชำระต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีมิใช่ยื่นฎีกาเพื่อให้ศาลฎีกามีคำสั่งให้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินแก่ผู้ซื้อทรัพย์ในที่สุดเมื่อศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาที่พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์โดยวินิจฉัยว่าพฤติการณ์ของผู้ซื้อทรัพย์ส่อไปในทางประวิงการวางเงินค่าซื้อทรัพย์ตามที่เจ้าพนักงานบังคับคดีแจ้งให้วาง ผู้ซื้อทรัพย์ก็มิได้ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานบังคับคดีที่ให้นำเงินมาวางภายใน 15 วัน แต่ขอขยายเวลาการชำระเงินออกไปอีก3 เดือน แสดงถึงเจตนาประวิงการวางเงินค่าซื้อทรัพย์ต่อไปไม่มีที่สิ้นสุดที่เจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำสั่งไม่ให้ขยายเวลาการชำระเงินและสั่งริบเงินมัดจำจึงเป็นการใช้ดุลพินิจโดยสุจริตและเป็นคำสั่งที่ชอบ
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 296

ผู้พิพากษา

วิชา มหาคุณ
พูนศักดิ์ จงกลนี
ปัญญา สุทธิบดี

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android