คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3080/2523

 แหล่งที่มา: เนติบัณฑิตยสภา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 

ธนาคารโจทก์มีวัตถุประสงค์อย่างไร ไม่เกี่ยวกับสภาพแห่งข้อหาของโจทก์ หรือข้ออ้างที่โจทก์อาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาที่จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ ซึ่งโจทก์จะต้องแสดงโดยแจ้งชัดในคำฟ้องตามนัย มาตรา172 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง จึงไม่จำเป็นที่โจทก์จะต้องแสดงมาในคำฟ้อง
หนังสือมอบอำนาจไม่ระบุว่าให้ฟ้องผู้ใด ข้อหาใด แต่ระบุไว้ว่า " ยื่นฟ้อง ต่อสู้ เข้าเป็นคู่ความ และดำเนินคดีใด ๆ ซึ่งสาขาที่กล่าวแล้วมีส่วนได้เสียหรือเกี่ยวข้องอยู่ " เมื่อจำเลยทำหนังสือสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีไปจากธนาคารโจทก์สาขาที่ ก. เป็นผู้จัดการ ก. ผู้รับมอบอำนาจมีอำนาจฟ้อง
แม้หนังสือมอบอำนาจจะไม่ได้ปิดอากรแสตมป์ จึงไม่สมบูรณ์เท่ากับไม่ได้มอบอำนาจกันนั้น แต่เมื่อจำเลยยอมรับอยู่แล้วว่าได้มีการมอบอำนาจกันจริง จึงไม่จำต้องอาศัยใบมอบอำนาจเป็นพยานหลักฐานในคดีอีก จำเลยที่ 1 ยอมรับว่าได้ทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชี และมีหนี้อยู่ตามจำนวนที่โจทก์กล่าวในฟ้องจริง เพียงแต่จำเลยที่ 1 อ้างว่าหนี้จำนองดังกล่าวนี้เป็นส่วนของ จำเลยที่ 2 ที่จำเลยที่ 2 จะต้องรับผิดชอบชำระแก่โจทก์โดยต้อง ชำระผ่านบัญชีของจำเลยที่ 1 ซึ่งโจทก์ก็ทราบดี จำเลยที่ 1 ไม่ต้อง รับผิด ภาระการพิสูจน์ความข้อนี้ตกหน้าที่จำเลยที่ 1 ต้องนำพยาน หลักฐานมาสืบว่าข้อเท็จจริงเป็นดังกล่าวอ้าง เมื่อไม่สืบพยานจำเลยที่ 1 ต้องเป็นฝ่ายแพ้คดี
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 60
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 84
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 172
  • ประมวลรัษฎากร มาตรา 172

ผู้พิพากษา

แต่ง ทองภักดี
สมชัย ทรัพยวณิช
เฟื่องขจิต รัศมิภูติ

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android