คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 241/2539

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
จำเลยที่5ได้ให้การต่อสู้คดีว่าการที่โจทก์นำเงินไปไถ่ถอนที่ดินที่จำนองไว้ไม่ใช่เรื่องที่โจทก์ได้ชำระเงินให้แก่บริษัท จ. ในฐานะผู้ค้ำประกันตามที่ได้ทำสัญญาค้ำประกันไว้ที่ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์นำเอาสัญญาประนีประนอมยอมความมาวินิจฉัยเป็นผลร้ายแก่จำเลยที่5ไม่ถูกต้องนั้นแต่ศาลชั้นต้นไม่ได้ยกข้อต่อสู้ของจำเลยที่5ขึ้นวินิจฉัยและจำเลยที่5อุทธรณ์แต่เพียงว่าโจทก์ได้ชำระเงินให้บริษัท จ.เพื่อไถ่ถอนจำนองที่ดินมิใช่ชำระหนี้ในฐานะผู้ค้ำประกันตามสัญญาค้ำประกันจำเลยที่5ไม่ต้องร่วมรับผิดเพราะจำเลยที่5ไม่ได้เป็นผู้รับเรือนโจทก์ในการที่โจทก์ได้นำที่ดินไปจำนองเป็นประกันการกู้เงินจำเลยที่5มิได้อุทธรณ์โต้เถียงว่าการที่ศาลชั้นต้นไม่ยกข้อต่อสู้ของจำเลยที่5ขึ้นวินิจฉัยไม่ถูกต้องอย่างไรไม่ชอบด้วยบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งว่าด้วยคำพิพากษาและคำสั่งอย่างไรจึงเป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชัดแจ้งและเป็นข้อที่ไม่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา225วรรคหนึ่งจำเลยที่5จึงไม่มีสิทธิฎีกาเพราะเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ต้องห้ามมิให้ฎีกาตามมาตรา249วรรคหนึ่ง จำเลยที่1กู้เงินจากบริษัท จ. ไป2,000,000บาทโจทก์ขอกู้จากจำเลยที่1จำนวน300,000บาทเงินที่โจทก์กู้ไปเป็นนิติสัมพันธ์ระหว่างจำเลยที่1กับโจทก์ไม่เกี่ยวกับจำเลยที่1กู้เงินจากบริษัท จ. ซึ่งจำเลยที่3ถึงที่6จะต้องร่วมรับผิดตามสัญญาประนีประนอมยอมความแต่อย่างใดจำเลยที่3ถึงที่6จะขอให้นำเงินจำนวน300,000บาทดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ยไปหักออกจากเงินที่ศาลล่างทั้งสองให้จำเลยที่3ถึงที่6รับผิดต่อโจทก์หาได้ไม่
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 341

ผู้พิพากษา

สถิตย์ ไพเราะ
พรชัย สมรรถเวช
สมคิด ไตรโสรัส

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android