คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8/2539

 แหล่งที่มา: สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 
คำเบิกความของผู้เสียหายที่ยืนยันในเบื้องต้นว่าจำเลยเป็นคนร้ายที่ชิงเอาสร้อยคอของผู้เสียหายไปโดยมีสิบตำรวจเอก ป.ผู้จับจำเลยเบิกความสนับสนุนว่าชั้นจับกุมผู้เสียหายได้แจ้งความดังกล่าวให้พยานทราบอีกทั้งผู้เสียหายยังให้การดังกล่าวต่อพนักงานสอบสวนโดยมีสาระสำคัญสอดคล้องกับคำเบิกความซึ่งเป็นการกระทำทันทีหลังจากเกิดเหตุแล้วใหม่ๆโดยไม่มีโอกาสคิดไตร่ตรองเพื่อปรักปรำให้ร้ายจำเลยทั้งการที่ผู้เสียหายลงชื่อรับรองไว้ในบัญชีทรัพย์ถูกประทุษร้ายกับบัญชีทรัพย์ถูกประทุษร้ายได้คืนแสดงว่าเจ้าพนักงานตำรวจได้ยึดสร้อยคอของผู้เสียหายที่ถูกจำเลยชิงเอาไปได้จากจำเลยจริงและให้ผู้เสียหายรับคืนไปโดยเหตุที่สิบตำรวจเอก ป. และพันตำรวจตรี ศ. พนักงานสอบสวนได้ปฏิบัติการไปตามหน้าที่ไม่มีเหตุให้ต้องทำบันทึกตามเอกสารที่กล่าวมาเพื่อกลั่นแกล้งจำเลยพยานหลักฐานโจทก์จึงมีน้ำหนักมั่นคงรับฟังลงโทษจำเลยได้แต่ ปืนไฟแช็กที่จำเลยได้ใช้จี้ผู้เสียหายนั้นเป็น สิ่งเทียมอาวุธปืน มิใช่ อาวุธปืนตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯจึงไม่ต้องรับโทษหนักขึ้นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา340ตรี
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 227

ผู้พิพากษา

สุทธิ นิชโรจน์
สุชาติ ถาวรวงษ์
สุประดิษฐ์ หุตะสิงห์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android