คำพิพากษาย่อสั้น
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์ โดยจำเลยเอาความอันเป็นเท็จฟ้องโจทก์เป็นคดีอาญาว่าโจทก์เบียดบังเอาฟิล์มภาพยนตร์รายพิพาทของจำเลยไปโดยทุจริต และจำเลยได้เบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณาคดีนั้นว่าโจทก์ได้ขอยืมฟิล์มภาพยนต์ไปจากจำเลย ซึ่งความจริงจำเลยได้ขายฟิล์มภาพยนตร์ให้โจทก์และได้รับชำระราคาจากโจทก์ไปแล้ว อันเป็นมูลกรณีเดียวกันกับที่โจทก์ฟ้องคดีอาญาขอให้ลงโทษจำเลยฐานฟ้องเท็จและเบิกความเท็จโดยอ้างว่าความจริงจำเลยได้ขายฟิล์มภาพยนตร์ให้โจทก์และได้รับชำระราคาจากโจทก์ไปแล้วอย่างเดียวกับที่โจทก์อ้างในคดีนี้คดีนี้จึงเป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาดังกล่าว คำพิพากษาในคดีอาญาดังกล่าวนอกจากผูกพันโจทก์จำเลยซึ่งเป็นคู่ความในคดีแล้ว ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่งนี้ ศาลยังจะต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญาด้วย
เมื่อข้อเท็จจริงในคดีอาญาที่โจทก์ฟ้องฟังยุติแล้วว่าจำเลยไม่ได้ขายฟิล์มภาพยนตร์รายพิพาทให้โจทก์และได้รับชำระราคาจากโจทก์ การฟ้องและการเบิกความของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดหรือเท็จด้วย การพิพากษาคดีส่วนแพ่งนี้ศาลจึงต้องถือตามฟ้องโจทก์ในส่วนแพ่งที่หาว่าจำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์โดยจำเลยเอาความอันเป็นเท็จฟ้องโจทก์และเบิกความอันเป็นเท็จในการพิจารณานั้นจึงตกไป