คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 557/2524

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ที่ 1 เป็นภริยาของ ล. โจทก์ที่ 2 เป็นบุตรของ ล. ซึ่งเกิดแต่ ข. ภริยาอีกคนหนึ่ง จำเลยเป็นบุตรซึ่งเกิดแต่ ส. ภริยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของ ล. จำเลยโอนรับมรดกที่ดินพิพาทแต่ผู้เดียว ขอให้แบ่งตามส่วน ได้ความว่าโจทก์ที่2 และจำเลยเป็นบุตรที่ ล. บิดารับรองว่าเป็นบุตรส่วนที่พิพาทได้ความว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาในระหว่างที่ ล. และ ส. มารดาจำเลยอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยาดังนี้ ล. และ ส. จึงเป็นเจ้าของรวมในที่พิพาท ที่พิพาทจึงเป็นของ ส. มารดาจำเลยกึ่งหนึ่ง อีกกึ่งหนึ่งเป็นของ ล. ส่วนของ ล. นี้ตกเป็นสินสมรส ระหว่าง ล. กับโจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 1 จึงมีสิทธิ ในส่วนที่ เป็นของ ล. กึ่งหนึ่งในฐานะภรรยาที่ ชอบด้วยกฎหมาย อีกกึ่งหนึ่งเป็นมรดกของ ล. ซึ่งตกได้แก่โจทก์ที่ 1 ที่ 2 และจำเลยคนละหนึ่งส่วนเท่ากัน(โจทก์ที่ 1 มีสิทธิในที่พิพาท 4 ใน 12 ส่วน โจทก์ที่ 2 มีสิทธิ 1 ใน 12 ส่วน)
จำเลยไปยื่นคำร้องขอรับมรดกที่พิพาท โจทก์ที่ 1ได้ยื่นคำคัดค้าน ในที่สุดโจทก์ที่ 1 และจำเลยตกลงกันได้ โจทก์ที่ 1 ได้ทำบันทึกไว้ต่อหน้าเจ้าพนักงานที่ดินว่าโจทก์ที่ 1 ยอมรับเอาที่พิพาทส่วนหนึ่งทางทิศตะวันตกจะรังวัดแบ่งแยกกันเมื่อจำเลยได้โฉนดแล้ว และโจทก์ที่ 1 ขอถอนคำคัดค้านนั้นเสียดังนี้ บันทึกดังกล่าวเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตกลงแบ่งปันทรัพย์ มรดก ไม่ใช่การสละมรดก เป็นผลให้สิทธิเรียกร้องของโจทก์ที่ 1 ระงับไป และได้สิทธิใหม่ตามสัญญานี้จำเลยกล่าวมาในฎีกาว่ายินดีปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมดังกล่าว ศาลฎีกาพิพากษาให้โจทก์ที่ 1 มีสิทธิได้รับส่วนแบ่งตามสัญญาดังกล่าวนั้นได้
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1356
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1612
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1613
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1627
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1635
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1636
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1750
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142

ผู้พิพากษา

พินิจ สังขนันท์
ทวี กสิยพงศ์
ธาดา วัชรานันท์

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android