คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2830/2517

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 

เจ้าพนักงานบังคับคดียึดที่ดินที่พิพาทเพื่อขายทอดตลาดเอาเงินมาแบ่งให้โจทก์จำเลยคนละครึ่งตามคำพิพากษาที่ได้วินิจฉัยว่า โจทก์จำเลยเป็นเจ้าของที่พิพาทร่วมกัน ผู้ร้องที่ 1 ยื่นคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด อ้างว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมกับบุตรอีกสองคน ศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วว่า ผู้ร้องที่ 1 ไม่มีสิทธิร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ถูกยึด แต่มีสิทธิเพียงขอรับส่วนแบ่งของตนหลังจากเจ้าพนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดไปแล้วเท่านั้น ผู้ร้องที่ 1 กับผู้ร้องที่ 2 ที่ 3ยื่นคำร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดนั้นอีก โดยอ้างว่าผู้ร้องที่ 1 กับจำเลยมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่พิพาทคนละครึ่ง และผู้ร้องทั้งสามกับจำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อศาลชั้นต้น โดยจำเลยยอมยก0กรรมสิทธิ์ที่ดินส่วนของจำเลยให้แก่ผู้ร้องทั้งสามผู้ร้องทั้งสามจึงเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่พิพาททั้งแปลง จึงขอให้ศาลปล่อยที่ดินที่พิพาทให้ผู้ร้องทั้งสาม ดังนี้ คำร้องฉบับหลังในส่วนที่เกี่ยวกับผู้ร้องที่ 1 ย่อมเป็นคำร้องซ้ำกับคำร้องเดิม ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148 ส่วนคำร้องในส่วนที่เกี่ยวกับผู้ร้องที่ 2 ที่ 3 นั้น เป็นเรื่องจำเลยยอมให้ส่วนของจำเลยในที่ดินที่พิพาทตกเป็นของผู้ร้อง ผู้ร้องที่ 2 ที่ 3 จึงเป็นเพียงผู้เข้าสวมสิทธิในที่ดินส่วนของจำเลยเท่านั้น เมื่อผู้ร้องที่ 2 ที่ 3 มาร้องขอให้ปล่อยทรัพย์พิพาทโดยอ้างว่าทรัพย์ที่ยึดไม่ใช่ของโจทก์หรือจำเลยย่อมเป็นการไม่ชอบด้วยการดำเนินคดีทางร้องขัดทรัพย์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 288 ที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานและยกคำร้อง จึงชอบแล้ว
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 288

ผู้พิพากษา

ชุ่ม สุนทรธัย
สัญชัย สัจจวานิช
แผ้ว ศิวะบวร

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android