คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2206/2548

 แหล่งที่มา: สำนักวิชาการ
 เผยแพร่เมื่อ: 30 มิ.ย. 2551 14:32:48

คำพิพากษาย่อสั้น

 
คดีก่อนมีเพียงรู้ผู้ร้องที่ 5 เท่านั้น ที่เป็นคู่ความกับผู้คัดค้าน โดยผู้คัดค้านเป็นผู้ร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก ส่วนผู้ร้องที่ 5 เป็นผู้คัดค้านและขอเป็นผู้จัดการมรดกเช่นกัน ปรากฏว่าคดีดังกล่าวศาลชั้นต้นยกคำร้องและคำคัดค้าน มีเพียงผู้คัดค้านซึ่งเป็นผู้ร้องในคดีก่อนอุทธรณ์ คำสั่งศาลชั้นต้นในคดีก่อนจึงถึงที่สุดสำหรับผู้ร้องที่ 5 แล้ว การที่ผู้ร้องที่ 5 ยื่นคำร้องขอร่วมกับผู้ร้องที่ 1 ถึงที่ 4 และที่ 6 ในคดีนี้ จึงไม่เป็นคำร้องซ้อนตาม ป.วิ.พ. มาตรา 173 วรรคสอง
คดีก่อนผู้คัดค้านยื่นคำร้องขอจัดการมรดกผู้ตายอ้างว่าผู้ตายไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ ศาลชั้นต้นยกคำร้องและคำคัดค้านให้เหตุผลว่าผู้ตายได้ตั้งผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรมไว้แล้ว ไม่มีเหตุจะตั้งผู้จัดการมรดกอีก คดีนี้ผู้ร้องที่ 5 ยื่นคำร้องขอร่วมกับผู้ร้องที่ 1 ถึงที่ 4 และที่ 6 ว่า ผู้ตายทำพินัยกรรมตั้งผู้จัดการมรดกไว้ 2 คน แต่การจัดการมรดกมีข้อขัดข้องเพราะผู้จัดการมรดกคนหนึ่งถึงแก่กรรมและอีกคนหนึ่งไม่ประสงค์จะจัดการมรดก เหตุที่อ้างในคดีนี้จึงเป็นคนละเหตุกับคดีก่อนอันเป็นคนละประเด็นกัน ไม่เป็นการรื้อร้องฟ้องกันอีกในประเด็นที่ได้วินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกัน จึงไม่เป็นคำร้องซ้ำตาม ป.วิ.พ. มาตรา 148 วรรคหนึ่ง
ผู้ร้องที่ 1 ถึงที่ 4 และที่ 6 ไม่ได้เป็นคู่ความกับผู้คัดค้านในคดีก่อนจึงไม่ใช่คู่ความรายเดียวกัน คำร้องขอของผู้ร้องที่ 1 ถึงที่ 4 และที่ 6 ที่ยื่นเข้ามาร่วมกับผู้ร้องที่ 5 จึงไม่เป็นคำร้องซ้อนและคำร้องซ้ำกับคดีก่อน
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173
  • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148

ผู้พิพากษา

เกษม วีรวงศ์
ชวลิต ตุลยสิงห์
สุรพล เอกโยคยะ

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android