คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4174/2530

 แหล่งที่มา: กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
 เผยแพร่เมื่อ: 1 ม.ค. 2513 07:00:00

คำพิพากษาย่อสั้น

 

จำเลยที่ 1 เช่าซื้อรถยนต์ไปจากโจทก์ ตามสัญญาเช่าซื้อกำหนดเวลาให้ชำระค่าเช่าซื้อทุกวันที่ 13 ของเดือน หากจำเลยที่ 1ผิดนัดแม้เพียงงวดหนึ่งงวดใดถือเป็นการผิดสัญญาและยอมให้สัญญาเช่าซื้อเป็นอันเลิกกันทันทีแต่จำเลยที่ 1 ได้ชำระเงินค่าเช่าซื้อเกินกำหนดเวลาตลอดมาทุกงวดตั้งแต่งวดแรกเป็นต้นไปซึ่งฝ่ายโจทก์ยินยอมรับไว้โดยมิได้ทักท้วง ตามพฤติการณ์แสดงว่าในทางปฏิบัติคู่สัญญาไม่ถือเอากำหนดเวลาชำระค่าเช่าซื้อตามสัญญาเป็นสำคัญ จะถือว่าจำเลยที่ 1 ผิดนัดผิดสัญญาและสัญญาเช่าซื้อเลิกกันไม่ได้ กรณีนี้หากโจทก์ประสงค์จะเลิกสัญญาก็จะต้องบอกกล่าวให้จำเลยที่ 1 ชำระค่าเช่าซื้อตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 387 ก่อน แต่ไม่ปรากฏว่าหลังจากนั้นโจทก์ได้บอกเลิกสัญญากับจำเลยที่ 1อย่างไรก็ตามการที่โจทก์ไปยึดรถยนต์ที่เช่าซื้อคืน เพราะเหตุที่จำเลยที่ 1 ชำระค่าเช่าซื้อเกินกำหนดเวลา และจำเลยที่ 1 ก็ยินยอมให้ยึดไปโดยไม่ได้โต้แย้ง ก็เป็นพฤติการณ์ที่ถือได้ว่าโจทก์กับจำเลยที่ 1 ต่างสมัครใจที่จะเลิกสัญญาต่อกันโดยปริยายนับแต่วันที่โจทก์ยึดรถยนต์คืน คู่สัญญาจำต้องให้อีกฝ่ายหนึ่งได้กลับคืนสู่ฐานะดั่งที่เป็นอยู่เดิม จำเลยที่ 1 จึงต้องชดใช้ค่าใช้ทรัพย์ดังกล่าวให้โจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 วรรคสาม และเมื่อสัญญาเลิกกันโดยจำเลยที่ 1 มิได้เป็นฝ่ายผิดสัญญา จำเลยที่ 1 ก็ไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายใด ๆ รวมทั้งค่าติดตามรถยนต์ให้โจทก์ ส่วนจำเลยที่ 2 ผู้ค้ำประกัน ซึ่งยอมรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมกับจำเลยที่1 ในการปฏิบัติตามสัญญา ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ในการชดใช้ค่าใช้ทรัพย์ให้โจทก์ด้วย.
 
 
 
 

กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 572
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 574
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 387
  • ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 680

ผู้พิพากษา

สีนวล คงลาภ
มาโนช เพียรสนอง
สุพจน์ นาถะพินธุ

แอปพลิเคชั่นค้นหาคำพิพากษาศาลฎีกา

ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for iOS ค้นหาฎีกา (Easy Deka) for Android